เลือกตั้งผู้ว่า กทม. ปี 56 เพื่อไทยมีลุ้น???

คะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 52
ผลการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทั้ง 50 เขต อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า

อันดับ 1 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 934,602 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 45.41

อันดับ 2 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ได้ 611,669 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 29.72

อันดับ 3 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หมายเลข 8 ได้ 334,846 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 16.27

อันดับ 4 นายแก้วสรร อติโพธิ หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ ได้ 144,779 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 7.03

ถ้านำคะแนน ของ ยุรนันท์+หม่อมปลื้ม = 946515

 +++++++++++++++++++++++++++++++++
 สรุปผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) อย่างไม่เป็นทางการ
ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรุงเทพมหานคร

สถิติการใช้สิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ
แบบบัญชีรายชื่อจากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 4,260,951 คน
มีผู้มาใช้สิทธิ์ จำนวน 3,019,407คน
คิดเป็นร้อยละ 71.62% (ปี 2550 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 69.37 %)
บัตรดี 2,826,083 บัตร คิดเป็น 93.61 %
บัตรเสีย 58,962 บัตร คิดเป็น 1.95 %
ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 133,945 บัตร คิดเป็น 4.44%
 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีผู้ใช้สิทธิ์เท่ากัน พบว่า
บัตรดี 2,676,628 คิดเป็น 88.66 %
บัตรเสีย 161808 คิดเป็น 5.36%
ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 180,547 คิดเป็น 5.98 %

สรุปจำนวน ส.ส. กทม.จาก 33 เขตเลือกตั้ง
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ 23 คน เพื่อไทย (พ.ท.) ได้ 10 คน
เขตที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ มากที่สุดคือ เขตทวีวัฒนา คิดเป็น 77.21%
เขตที่มีผู้มาใช้สิทธ์น้อยที่สุดคือเขตดุสิต 63.73 %

ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร 33 เขต (อย่างไม่เป็นทางการ)
เขต1 นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ปชป. 40,328 คะแนน พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันท์ พท. 20,230 คะแนน
เขต2 นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ปชป. 52178 คะแนน ม.ล.ณัฎฐพล เทวกุล พท. 26,956 คะแนน
เขต3 ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ปชป. 47,982 คะแนน นายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ พท. 29,976 คะแนน
เขต4 นายอนุชา บุรพชัยศรี ปชป. 44,621 คะแนน นายวรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ พท. 29,749 คะแนน
เขต5 นางสาวลีลาวดี วัชโรบล พท. 38,206 คะแนน นางสาวจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ปชป. 37,528 คะแนน
เขต6 นายธนา ชีรวินิจ ปชป 51,501 คะแนน นายกวี ณ ลำปาง พท. 45,792 คะแนน
เขต7 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ปชป. 38,470 คะแนน นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ พท. 32,692 คะแนน
เขต8 นายสรรเสริญ สมะลาภา ปชป. 43, 293 คะแนน นายสิงห์ทอง บัวชุม พท. 38,187 คะแนน
เขต9 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ปชป. 42,352 คะแนน นางสาววิลาวัลย์ ธรรมชาติ พท. 37,602 คะแนน
เขต10 นายชื่นชอบ คงอุดม ปชป 32,306 คะแนน นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ พท. 30,596 คะแนน
เขต11 นายสุรชาติ เทียนทอง พท. 27,843 คะแนน นายสกลธี ภัททิยกุล ปชป. 25,192 คะแนน
เขต12 นายการุณ โหสกุล พท. 37,858 คะแนน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ปชป. 30,185 คะแนน
เขต13 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พท. 51,765 คะแนน นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ปชป. 33,805 คะแนน
เขต14 นายอนุสรณ์ ปั้นทอง พท. 49,829 คะแนน นายวิทเยนทร์ มุตตามระ ปชป. 41,735 คะแนน
เขต15 นายณัฐ บรรทัดฐาน ปชป. 37,260 คะแนน นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ พท. 32,737 คะแนน
เขต16 นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ พท. 48,690 คะแนน นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ปชป. 47,425 คะแนน
เขต17 นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พท. 42,450 คะแนน นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ปชป. 39,634 คะแนน
เขต 18 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ พท. 39,058 คะแนน นายสมัย เจริญช่าง ปชป. 37,910 คะแนน
เขต19 นายไพโรจน์ อิสรเสรีพงษ์ พท. 36,262 คะแนน นายวสันต์ มีวงษ์ ปชป. 32,450 คะแนน
เขต20 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ พท. 44,539 คะแนน นางสลวยเลิศ กิมสูนจันทร์ ปชป. 25,964 คะแนน
เขต21 นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ปชป. 42,754 คะแนน นายเอกพจน์ วงศ์อารยะ พท. 33,317 คะแนน
เขต 22 นายสามารถ มะลูลีม ปชป. 50,467 คะแนน นายภัทรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ พท. 39,437 คะแนน
เขต23 นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ปชป. 47,993 คะแนน นายวัฒนา เซ่งไพเราะ พท. 39,668 คะแนน
เขต 24 นายสุรันต์ จันทรพิทักษ์ ปชป. 44,689 คะแนน นายอเนก หุตังคบดี พท. 35,789 คะแนน
เขต25 นางนันทพร วีรกุลสุนทร ปชป. 44,140 คะแนน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ พท. 38,399 คะแนน
เขต 26 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ปชป. 46,910 คะแนน นางสาวนพสรัญ วรรณศิริกุล พท. 45,092 คะแนน
เขต 27 นายสากล ม่วงศิริ ปชป. 38,137 คะแนน นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ พท. 33,475 คะแนน
เขต 28 พ.ต.อ.นพ.สามารถ ม่วงศิริ ปชป. 41,272 คะแนน นายวัน อยู่บำรุง พท. 40,129 คะแนน
เขต 29 นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ปชป. 37,932 คะแนน นายแสวง ฤกษ์จรัล พท. 34,457 คะแนน
เขต 30 นางอรอนงค์ คล้ายนก ปชป. 47,886 คะแนน ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต พท. 43,086 คะแนน
เขต 31นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ปชป. 49,650 คะแนน นายมานะ คงวุฒิปัญญา พท. 46,349 คะแนน
เขต 32 นายชนินทร์ รุ่งแสง ปชป. 43,407 คะแนน นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ พท. 40,942 คะแนน
เขต33 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก ปชป. 35,906 คะแนน นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ พท. 31,867 คะแนน
 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=polball&month=07-2011&date=04&group=2&gblog=147

 

เขต	เพื่อไทย	ประชาธิปัตย์
1.	20,230	40,328
2	26,956	52,178
3	29,976	47,982
4	29,749	44,621
5	38,206	37,528
6	45,792	51,501
7	32,692	38,470
8	38,187	43,293
9	37,602	42,352
10	30,569	32,306
11	27,843	25,192
12	37,858	30,185
13	51,765	33,805
14	49,826	41,735
15	32,737	37,260
16	48,690	47,425
17	42,450	39,634
18	39,058	37,910
19	36,262	32,450
20	44,539	25,964
21	33,317	42,754
22	39,437	50467
23	39,668	47,993
24	35,789	44,689
25	38,399	44,140
26	45,092	46,910
27	33,475	38,137
28	40,129	41,272
29	34,457	37,932
30	43,086	47,886
31	46,349	49,650
32	40,942	43,407
33	31,867	35,906
รวม	1,242,994	1,353,262

ช็อก แม่น้ำแยงซีกลายเป็นสีแดงเหลือง สื่อตปท.โยง"สัญญาณวันสิ้นโลก"แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด(ชมภาพ)

"เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า เกิดเหตุชวนอึ้ง หลังจากแม่น้ำแยงซี ที่ไหลผ่านเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้กลายเป็นสีแดงเหลือง เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นทางน้ำที่ไหลบรรจบพบกับแม่น้ำเจียลิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังสอบสวนสาเหตุของสถานการณ์ดังกล่าว โดยผู้คนต่างบอกว่ารู้สึกตะลึงเมื่อเก็บตัวอย่างของน้ำจากแม่น้ำดังกล่าวใน ขวด ซึ่งเป็นสีแดง

"เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า เกิดเหตุชวนอึ้ง หลังจากแม่น้ำแยงซี ที่ไหลผ่านเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้กลายเป็นสีแดงเหลือง เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นทางน้ำที่ไหลบรรจบพบกับแม่น้ำเจียลิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังสอบสวนสาเหตุของสถานการณ์ดังกล่าว โดยผู้คนต่างบอกว่ารู้สึกตะลึงเมื่อเก็บตัวอย่างของน้ำจากแม่น้ำดังกล่าวใน ขวด ซึ่งเป็นสีแดง

รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เลียนคล้ายแม่น้ำเจียน ในเมืองหลิวหยาง ในมณฑลเฮอหนาน ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งกลายเป็นสีแดง หลังจากได้รับมลพิษจากสีย้อมผ้าที่่รุนแรง โดยถูกทิ้งจากจากโรงงานย้อมผ้าผิดกฎหมาย และทำให้ทางการต้องเข้าปิดโรงงานดังกล่าวและยึดเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม เดลี่ เมล์ ยังรายงานว่า ปรากฎการณ์นี้ดูเหมือนจะคล้ายกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิลบท 16 ที่ระบุถึงสัญญาณของวันสิ้นโลก ว่า เทวดาจะโยนบาปลงสู่แม่น้ำต่าง ๆ และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือดhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1347078621&grpid=03&catid=03&utm_source=Matichon&utm_medium=twitter

นปช. แถลงข่าว 07กันยา55

ดูหน้า กันชัดๆ ใครบ้างที่มันละเว้นหน้าที่ ไม่จับแม่ นายอรรถวิชช์ สส. ประชาธิปัตย์ ในคดี โกง ธนาคาร 4100 ล้าน

จากล่าตัว"ราเกซ"ถึงแม่ ส.ส.ปชป. "ภคินี สุวรรณภักดี" หนีคดีโกงธ.มหานคร4พันล.พิสูจน์น้ำยาอัยการ-ตำรวจ

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1257168658&grpid=00&catid

ส.ส.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี-พิณ บูรพชัยศรีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสพระราชทาน ณ ห้องบอลรูม  ร.ร.โฟร์ซีซั่นส์  ระหว่างเจ้าบ่าว“หนุ่มเอ๋” อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี  ส.ส.กรุงเทพฯ สมัยแรก เขต 4 พรรคประชาธิปัตย์ บุตรชายสมพงศ์-ภคินี สุวรรณภักดี กับเจ้าสาว บี-พิณ บูรพชัยศรี นักธุรกิจพันล้าน บุตรสาวไพรัช-กัญญารัตน์ บูรพชัยศรี หลังคบหากันมายาวนานถึง 16 ปี

บรรยากาศก่อนเข้างานถูกตกแต่งเอาไว้ดอกไม้นานาชนิด โดยมีแขกผู้มีเกียรติมากมายที่มาร่วมงาน อาทิ พล.ต.สนั่น ขจรรประศาสน์, พรทิวา นาคาศัย, ถาวร เสนเนียม,วิฑูรย์ นามบุตร,กรณ์ จาติกวณิช,กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ,สุเทพ เทือกสุบรรณ,อลงกรณ์ พลบุตร,จุรินทร์ ลักษณวิศษฎ์,คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ฯลฯ​

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวอวยพรว่า “ความรักของคนทั้งคู่ช่างเป็นความรักที่มั่นคง เพราะคบกันมาตั้ง 16 ปี แต่ยังไงพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้สมาชิกเพิ่มอีก 1 คน แล้วก็ขอให้ช่วยสร้างสมาชิกให้กับพรรคด้วย” ยังไม่ทันสิ้นเสียงคำอวยพรของท่านนายกอภิสิทธิ์ ทำเอาแขกผู้มีเกียรติต่างอดยิ้มไม่ได้ และค่ำคืนนั้นรอยยิ้มของคู่บ่าวสาวก็ตราตรึงกับแขกผู้มาร่วมทุกคน…

ตำรวจนับพันแห่ให้กำลังใจ 'บิ๊กแจ๊ด'หลังช่วยลูกน้อง แต่ถูกโจมตี (ชมคลิป)

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลทั้งระดับสัญญาบัตรและประทวนกว่า 1,000 นาย พากันรวมตัวเดินทางมาให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในกรณีที่มีการติดรูปถ่ายภาพคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงป้ายข้อความ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ในห้องรับรองแขกชั้น 2 และถูกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรโจมตี  รวมถึงกรณีให้ พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง  สวป.สน.ทองหล่อ ออกจากราชการไว้ก่อน สาเหตุจากช่วยเหลือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา บุตรชายนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ขับรถเก๋งเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ  ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ อายุ 54 ปี ที่ปฏิบัติหน้าที่เสียชีวิต และนำตัวนายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านหลังดังกล่าวมามอบตัว ก่อนต่อมาพบว่าเป็นตัวปลอม  โดยต่างตะโกนว่า “บิ๊กแจ๊ดสู้ๆ” พร้อมชูป้ายให้กำลัง โดยป้ายหนึ่งเป็นข้อความว่า “ผมยอมให้ตำรวจตายฟรีไม่ได้ ไม่กลัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน” ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ พูดไว้เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย. หลังเกิดเหตุ ด.ต.วิเชียร ถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต

จากนั้นเวลา 10.10 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์  พร้อมบรรดารอง ผบช.น. ต่างเดินทางลงมาบริเวณหน้า บช.น. โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ขอบคุณเพื่อนๆตำรวจทุกคนที่มาให้กำลังใจ ปกติเป็นคนพูดไม่เก่ง พูดน้อย แต่สิ่งที่ทำออกมามันมาจากใจจริงๆ ไม่เคยมาเสแสร้ง หากไม่มีพวกท่านตนคงไม่มีวันนี้ สิ่งที่สะเทือนใจที่สุดในคดีที่เกิดขึ้นคือ หลังจากไปดูรถแล้ว  เครื่องหมายนายดาบตำรวจติดอยู่ที่ที่ปัดน้ำฝน สิ่งนี้ทำให้ทนไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ทุกคนไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วง ตนทำเพื่อพี่น้องประชาชนทำเพื่อความถูกต้อง และหลังจากนี้หากกลับไปขอให้พี่น้องทุกคนทำหน้าที่ดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข พี่น้องในกรุงเทพมหานครให้ดีที่สุด ตนยืนยันได้ว่าไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง และที่มาหลายคนในวันนี้มีบางคนโทรมาบอกว่าขอเวลาอีกหน่อย กำลังเดินทางมา อย่าเพิ่งลงมา.

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า มีบางกลุ่มไปยื่นฟ้องตนที่ ป.ป.ช. และผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่ากังวลอะไรมาก แค่มาในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตของตนแล้ว ที่สุดของตำรวจคนหนึ่ง ที่จะพยายามทำหน้าที่ โดยจะทำหน้าที่ให้พี่น้องในกรุงเทพมหานครให้ดีที่สุด ทุกคนหัวใจเดียวกัน ตนจะโดนออกเพราะลูกน้องขับรถและโดนชนตายก็ไม่เป็นไร ตนจะเล่าให้ฟัง 3 คดีในกรุงเทพ คดีที่ 1 ตำรวจ สน.บางกอกน้อย โดนยิงตาย ตนต้องลงไปเองไปจี้คดีก่อนจับได้ใน 2-3 วัน แต่ขณะเดียวกัน คดีที่ 2 เหตุการณ์ที่บางขุนเทียน ตนรับไมได้ เพราะโดนยิงถากหัว จะให้โดนยิงเข้าหัวหรือไง ถึงจะไปดูที่เกิดเหตุ แต่เมื่อโดนยิงขนาดนั้น คุณเป็นผู้กำกับได้ยังไง ที่เกิดเหตุไม่ไปดู อย่าทำงานเลย ถ้าหัวใจไม่เป็นหัวใจเดียวกับลูกน้อง และคดีที่ 3 คุณไปเอาแพะมาได้ยังไง ตำรวจก็เป็นลูกน้องคุณ สิ่งเหล่านี้ตนรับไม่ได้จริงๆ และจะไปยื่นฟ้อง หรือสอบตนที่ไหนก็เชิญ

“สำหรับการที่ผมติดรูปท่านทักษิณไว้ ผมยืนยันว่า ผมติดสมัยตั้งแต่เป็นผู้การ 191 (ผบก.สปพ.) ไม่ใช่เพิ่งมาติด ตอนนั้นท่านเรียกผมไป บอกว่า เอ็งจำไว้ เอ็งเป็นตำรวจ พี่เป็นนักการเมือง แต่หัวใจเดียวกัน คือหัวใจเพื่อประชาชน แต่เอ็งก็ต้องหนักกับพี่  พี่เป็นนักการเมือง พี่ทำให้ประชาชนรับพี่ แต่เอ็งก็ต้องทำให้ประชาชนและตำรวจรักเอ็ง สิ่งนี้ต่างหาก ผมยอมรับผมไป ผมไปต่างประเทศ นอกราชอาณาจักรไทย ไปให้ท่านติดยศให้ ผมเป็น พล.ต.ท. ก็ให้คนที่ผมรักติดให้ จะให้คนที่ผมเกลียดติดให้ได้ยังไง (เสียงตำรวจปรบมือลั่น)  ผมพูดจากใจจริง ไม่มีเสแสร้งใดๆทั้งสิ้น และในรูปก็เขียนชัดเจนว่าทำให้ประชาชนรักและตำรวจรัก ตั้งแต่สมัยผู้การ 191 ผมก็เอารูปมาติด เพื่อเป็นคติสอนใจการทำงาน ผมเข้าห้องทำงานก็มาดูและคิดว่าวันนี้กูจะทำอะไรเพื่อเพื่อนตำรวจ แล้วผมผิดหรือ ผมผิดไม่เป็นไรผมยอมรับผิด สังคมลงโทษผมอย่างไรก็ได้ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า “คำพูดที่ผมติดไว้ ผมยืนยันว่า ในชีวิตผม ผมร้องเป็นเพลงเดียวคือ เพลงพี่มีแต่ให้ ที่ไหนผมก็ร้องตั้งแต่เป็น สวญ. ผมร้องเป็นเพลงเดียว วลีนั้นมาจากเพลง แต่ตอนนี้หลายคนเอาไปแปลความหมายจนเป็นเรื่องราว ไม่เป็นไร ให้สอบผมมา และผมยืนยันอีกครั้งว่า ผมมาจุดนี้มากจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง หากเกิดเปลี่ยนรัฐบาล ผมลาออกไม่ต้องย้ายกู ผมยืนยัน จะให้เขียนใบลาออกทิ้งไว้ก่อนก็ได้ ไม่มีปัญหา ผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แห่งประเทศไทย ไม่ใช่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลประเทศไหน และผมจะไปจับคนร้ายนอกประเทศได้อย่างไร เอาแบบนี้แล้วกัน ไหนๆมากันแล้วไม่เคยทำแบบนี้ ร้องเพลง “มาร์ชผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” พร้อมๆกัน ใครรักผมร้องให้ดังๆ ”

จากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ให้ พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. ขึ้นต้นเพลง ก่อนตำรวจทั้งหมดร่วมร้องเพลงกันเสียงดังสนั่นลั่นนครบาล ก่อนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ บอกว่าจะขออีกเพลง ให้ช่วยกันร้อง ที่สำคัญความจงรักภักดีต้องเหนือสิ่งอื่นใด ร้องเพลง “สดุดีมหาราชา” จากนั้นตำรวจทั้งหมดร่วมกันร้องเพลง เมื่อจบเพลงบรรดาตำรวจต่างทยอยนำดอกกุหลาบมามอบให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ซึ่งมีคราบน้ำตาคลอ ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นยิ้มแย้ม ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. - ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าให้กำลังใจหลังถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า ให้อดีตนายกรัฐมนตรีประดับยศให้

ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กว่า 1,000 นาย มอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักว่าเดินทางไปต่างประเทศเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประดับยศพลตำรวจโทให้ จนถูกฝ่ายค้านยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบและชี้มูลความผิด

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวขอบคุณผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งน้ำตา พร้อมยอมรับว่าได้ไปพบกับอดีตนายกรัฐมนตรีจริง เนื่องจากส่วนตัวรู้จักและเคารพนับถือมาเป็นเวลานาน แต่หากสังคมจะลงโทษก็พร้อมรับ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าหากเปลี่ยนรัฐบาล จะไม่รอให้ถูกย้าย แต่จะลาออกด้วยตนเอง โดยจะเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า

จากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ร้องเพลงมาร์ชผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และเพลงสดุดีมหาราชาร่วมกับข้าราชการตํารวจที่มาให้กําลังใจ ก่อนขอร้องให้แยกย้ายกันกลับไปปฏิบัติหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ตำรวจชั้นประทวนนับพันนายเดินทางมาให้กำลังใจพล.ต.ท.คำรณ วิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(วังปารุสก์) หลังจากปฎิบัติหน้าที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมและปกป้องให้กับตำรวจ ชั้นผู้น้อย แต่กลับถูกพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโจมตี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 กันยายนนี้  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346987297&grpid=02&catid&subcatid

จับตาคดี ปรส.ทำชาติเสียหาย 8 แสนล้าน ประชาธิปัตย์ขายชาติตัวจริง ก่อนหมดอายุความ ปี 2556

จับตาคดี ปรส.ทำชาติเสียหาย 8 แสนล้าน ก่อนหมดอายุความ ปี 2556
Mthainews: หากย้อนอดีตไปเมื่อปี 2540 วิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ปาเข้าไปนานถึงสิบกว่าปี กับสำนวนคดี การขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือปรส.เกี่ยวกับการเร่ขายสินเชื่อที่อยู่อาศัย 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการ มูลค่า 851,000 ล้านบาท ไปประมูลขายเพียง 190,000 ล้านบาท  อีกทั้งกำหนดหลักเกณฑ์เอื้อประโยชน์ให้เอกชน  และหลบเลี่ยงภาษี คดีหมายเลขดำที่ อ.3344/2551
ซึ่งแต่เดิมนั้น ปรส. ในสมัยของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี นั้นได้สั่งปิด 56 ไฟแนนซ์ และตั้ง ปรส.ขึ้นมา เพื่อแยกหนี้ดี-หนี้เสียออกจากกัน แล้วค่อยประมูลขาย เพื่อปลดล็อกสินทรัพย์ทั้งหลายถูกแช่แข็งอยู่ออกมาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ อย่างรวดเร็วที่สุดและโปร่งใสที่สุด
โดยสินทรัพย์ดี จะได้ขายได้ในราคาที่ดี (โดยใช้วิธีประมูล) อีกทั้งช่วยเหลือผู้ฝากเงิน และเจ้าหนี้ที่สุจริต โดยเฉพาะกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ในสัดส่วน 87.54% และเพื่อชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ไม่สามารถฟื้นฟูกิจการได้
แต่ในทางปฏิบัติ สมัย นายชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปปัตย์มาบริหารประเทศนั้น มี การตั้งข้อสังเกตกันว่ากระทำขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งแก้ไข ระบบสถาบันการเงินด้วยการฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินการ ไม่ได้มีการแยกสินทรัพย์ดี และเสีย ( Good Bank –Bad Bank ) ทำรัฐเสียหายกว่า 800,000 ล้าน เกิดความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
จาก 8 แสนล้าน เหลือ 2 แสนล้าน  มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี ประกอบด้วย
คดี ที่ 1 กรณี บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยจาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2541 ยอดคงค้างทางบัญชี 24,616.95 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 11,520 ล้านบาท
คดีที่ 2 กรณีบริษัท โกลด์แมน แซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอล ยอดคงค้างทางบัญชี 115,890.96 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 22,454.87 ล้านบาท
คดีที่ 3 – 4 กรณี บริษัท เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับ กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 1 – 3 ยอดคงค้างทางบัญชี 64,303.34 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 23,176.38 ล้านบาท
คดีที่ 5 กรณี บริษัท วีคอนกลอมเมอเรท จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อสินทรัพย์ จาก ปรส. แล้วโอนสิทธิให้กับกองทุนรวมวีแคปปิตอล ยอดคงค้างทาง บัญชี2,376.73 ล้านบาท แต่ประมูลขายไปเพียง 3,189.90 ล้านบาท
เหล่านี้ คือผลของการกระทำดังกล่าวทำให้ การประมูลทรัพย์ ได้ราคาที่ต่ำมาก ซึ่งดีเอสไอสรุปสำนวนคดี ปรส. ชี้การกระทำดังกล่าวว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และนายวิชช์ จีระแพทย์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีล้มละลาย แถลงสรุปผลการประชุม ยังพบว่า มีการดำเนินการหลายกรณี ไม่เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 10 ประเด็น ดังนี้
1.ปรส.ยินยอมให้นิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปรส.เข้าประมูลซื้อทรัพย์สิน จากปรส.โดยมิชอบ
2.คณะกรรมการปรส.บางคนมีส่วนเกี่ยวข้องปกปิดข้อเท็จจริง กระทำการโดยไม่โปร่งใส
3.ข้อกำหนดของปรส.ที่ให้ผู้ชนะการประมูลโอนสิทธิได้ขัดต่อกฎหมาย
4.การโอนสิทธิของผู้ชนะการประมูล ไม่ชอบ ขัดต่อพรก.ปรส.
5.ข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของคณะกรรมการปรส.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
6.คณะกรรมการปรส.และกลุ่มนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปรส.ฝ่าฝืนข้อสนเทศการขาย ทรัพย์สิน
7. กองทุนรวมที่รับโอนสิทธิจากผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์สินจากปรส. ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
8.มีการทำสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
9.สิทธิของนิติบุคคลที่ชนะการประมูลไม่สมบูรณ์ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามข้อกำหนดการขายทรัพย์สินของปรส. และ
10.ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการปรส.บางคนขาดคุณสมบัติเนื่องจากดำรงตำแหน่งทับซ้อน กับสถาบันการเงินอีกแห่ง
จึง มีการทวงถาม ติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.)เพราะเกรงว่าจะหมดอายุความในปี 2556 และหากปปช. ปล่อยให้คดี ปรส. หมดอายุความไปกับมือ  ปปช. จะแสดงความรับผิดชอบค่าเสียหายอย่างไรต่อประเทศชาติ ซึ่งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องตามสรุปคดี เพื่อไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้หลุดไป  ตามเจตนารมณ์แก้ไข ไม่แก้แค้น อย่างแท้จริง

รายงาน "ความจริงเพื่อความยุติธรรม" ฟังแล้วน่าตกใจ หมอก็ร่วมกับขบวนเผด็จการกะเขาด้วย

Posted 04 September 2012 - 10:36 PM

ผมมีโอกาสไปเชียงใหม่ติดอุปกรณ์ถ่ายทอดสดและอัดเทปงานเสวนา รายละเอียดและสารบัญ ความจริงเพื่อความยุติธรรม:เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา - พฤษภา 53 ณ.ห้องประชุม คณะสังคมศาสตร์ มช. 01-09-12

มีผู้ร่วมฟังเสวนานี้แค่10กว่าคน แต่เนื้อหารายงานความจริงที่คณะกรรมการ ทำงานค้นคว้าสืบเสาะเป็นปี กว่าจะได้รายงานนี้ ฟังแล้วน่าตกใจ นอกจาก อำมาตย์ ทหาร ตำรวจ รัฐบาล ศาล ในขณะนั้นจะ ทำให้ผู้ชุมนุมตาย แต่ที่น่าตกใจ มีหมอในโรงพยาบาล ที่ไม่ใส่ใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บ จนเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมตายโดยหากได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์แล้วจะไม่ตายแน่ นอน

ผู้ค้นคว้า วิจัยและรายงานเป็น คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ดังๆชั้นแนวหน้าของประเทศทั้งนั้น จึงการันตีในความแม่นยำของรายงานได้แน่นอน
 บังสุกุล

"เพิ่มสุข ใจเย็น" พยานในที่เกิดเหตุ ระบุชัด ทหารยิง 6ศพวัดปทุมฯ การไต่สวน ณ ศาอาญา 6สิงหา 55

ครอบครัวของนายอัฐชัย ชุมจันทร์ 1 ใน 6ศพวัดปทุมฯ มาร่วมฟังการไต่สวน ณ ศาอาญากรุงเทพใต้ (แม่อัฐชัย คือผู้หญิงเสื้อสีแดง) @weeranan

บังเอิญ! ภาพนี้ระบุชัด "มงคล เข็มทอง" อาสาปอเต็กตึ้ง(คนขวา) ช่วยเหลือนายอัฐชัย ก่อนเสียชีวิต ซึ่งนายมงคล ก็เสียชีวิต

อาสาพยาบาล พยายามช่วยชีวิตนายอัฐชัย ชุมจันทร์แต่เสียเลือดมาก จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา @weeranan

"เพิ่มสุข ใจเย็น" พยานในที่เกิดเหตุ ระบุชัด ทหารยิง 6ศพวัดปทุมฯ จากรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ย้ำผู้ชุมนุมในวัดไม่มีอาวุธสงครามหรือชายชุดดำ

เปิดภาพวงจรปิดนาทีก่อนลูกเจ้าสัวกระทิงแดง ซิ่งเฟอร์รารี่ขยี้ "ตำรวจทองหล่อ" ตายสยอง !!

หมายเหตุ : ภาพ จากกล้องวงจรปิดบริเวณถนนสุขุมวิท เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555 จับภาพเหตุการณ์ขณะด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ อายุ 54 ปี กำลังขี่จักรยานยนต์สายตรวจอยู่บนถนนสุขุมวิท กับภาพรถซูเปอร์คาร์เฟอร์รารี่ ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา บุตรชายนายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง วิ่งอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน ก่อนที่ในภายหลังนายวรยุทธ หรือ บอส จะซิ่งเฟอร์รารี่พุ่งชนจยย.ของด.ต.วิเชียร บริเวณซอยสุขุมวิท 47 จนทั้งร่างของด.ต.วิเชียร และจยย. ถูกลากติดท้องรถเฟอร์รารี่ กระทั่งเป็นเหตุให้ดาบตำรวจรายนี้เสียชีวิตอย่างสยดสยอง

ขณเดียวกัน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. รับผิดชอบงานสอบสวนคดีดังกล่าว ได้เรียกชุดพนักงานสอบสวนคดีลูกทายาทกระทิงแดงขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เข้าร่วมประชุมที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) เมื่อวันที่ 4 ก.ย. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีภาพตอนที่รถพุ่งชน แต่มีภาพวงจรปิดเห็นก่อนถูกชนขณะที่ผู้ตายขี่รถจยย. และภาพวงจรปิดที่ผู้ต้องหาขับรถมาด้วยความเร็วสูง แต่ก็มีพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยานซึ่งสามารถที่จะพิสูจน์ความผิดได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาขับรถมาทางตรงมุ่งหน้าไปเอกมัยก่อนที่จะชนท้ายรถจยย.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คำนวณความเร็วรถได้หรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย ตอบว่า ความเร็วสูงแต่ต้องให้ผู้ชำนาญตรวจสอบอีกครั้ง เราได้ภาพขณะที่ผู้ตายขี่รถจยย.ผ่าน และภาพผู้ต้องหาขับรถผ่านกล้องด้วยความเร็วสูงซึ่งต้องใช้หลักการทางด้าน วิทยาศาสตร์พิสูจน์

 

เมื่อถามว่าการที่ขับรถชนตำรวจแล้วลากไปตั้ง 200 เมตรเข้าข่ายเจตนาฆ่าหรือไม่ พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เราคงต้องพิสูจน์กันอีกทีว่า มีพยานบุคคล หรือพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่ว่าพฤติการณ์เป็นอย่างนั้น เพราะว่าเมื่อพนักงานสอบสวนไปถึงคงไม่มีใครเห็นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร เราต้องพิสูจน์จากคำให้การพยาน และหลักฐาน รวมทั้งผลแพทย์ ก่อนที่จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ตนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ ที่ทำงานร่วมกับ ด.ต.วิเชียร ซึ่งเป็นคนดีเราคงจะไม่ปล่อยให้ ด.ต.วิเชียร เสียชีวิตไปโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ส่วนสำนวนคดีนั้นคงต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของตำรวจ รวมทั้งประชาชน และสื่อมวลชนให้สนใจ

 

"นายวรยุทธ ให้การว่าชนจริง แต่รายละเอียดไม่ขอเปิดเผย ผู้ต้องหามีข้อแก้ตัวบางประการซึ่งเราก็มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ อย่างนั้น" พล.ต.ต.อนุชัย ระบุ

 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346842634&grpid=01&catid=01&utm_source=MatichonOnline&utm_medium=MatichonOnline

"มีวันนี้เพราะพี่ให้" ผบช.น. "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง"

ผบช.น. "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" พบติดรูป"ทักษิณ"เต็มห้อง ระบุ"มีวันนี้เพราะพี่ให้"http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346735063&grpid&catid=19&subcatid=1905

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ บอก "ผมรักเคารพใคร ผมนำภาพมาติด มันเดือดร้อนอะไรกันนักหนา..ผมติดไว้เตือนสติตัวเอง" (สปริงนิวส์)
 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ "ถ้าการเมืองเปลี่ยนขั้ว ผมลาออกทันที ผมไม่ให้ย้ายหรอก ผมไม่ใช่สีแดง สีเหลือง ผมสีกากี" (สปริงนิวส์)
 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยอมรับว่าถ่ายภาพกับ พ.ต.ท.ทักษิณประดับยศที่ฮ่องกงจริง "ผมไม่เคยเนรคุณคน" (สปริงนิวส์)
 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ "มีวันนี้เพราะพี่ให้" หมายถึง "พี่ทักษิณ" เป็นคนให้ทุกอย่าง กลั่นจากหัวใจสุดๆ (สปริงนิวส์)
 "มีวันนี้เพราะพี่ให้" วรรคเด็ดจากนายตำรวจที่บอกว่า "ผมเป็นคนลูกทุ่ง ไม่มีอีแอบ รักใครรักจริง"