PEACE TV LIVE

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เปิดคำสั่งรักษาด่านศอฉ.หากยิงไม่ได้ให้เรียกใช้ "สไนเปอร์"

คำสั่งรักษาด่านศอฉ.ใช้ "พลแม่นปืน" หากผู้ก่อเหตุปะปนผู้ชุมนุม - หากยิงไม่ได้ให้ใช้ "สไนเปอร์"

เปิดเอกสาร “ศอฉ.” เผยแนวทางปฏิบัติการใช้อาวุธเพื่อรักษาที่ตั้งสำคัญ จุดตรวจ ด่านตรวจ ของช่วงสลายชุมนุม เม.ย. – พ.ค. 53 ระบุหากมีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธแล้วอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุม ให้เจ้าหน้าที่งดใช้อาวุธยกเว้นถ้าในหน่วยมี “พลแม่นปืน” ให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้ และหากไม่สามารถยิงได้ สามารถร้องขอ “พลซุ่มยิง (Sniper)” จาก ศอฉ. ได้ 
18 ส.ค. 55 – ผู้สื่อข่าวประชาไท ได้รับเอกสาร ส่วนราชการ สยก.ศอฉ. ที่ กห.1407.55 (สยก.) ลงวันที่ 17 เม.ย. 53 เรื่อง “ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจและสายตรวจเคลื่อนที่” ลงนามโดย พล.ท.อักษรา เกิดผล หน.สยก.ศอฉ. เสนอ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. ในเวลานั้น
โดยเอกสารมีทั้งหมด 5 หน้า ใจความสำคัญคือการระบุแนวทางปฏิบัติ หากมี “ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมากับกลุ่มผู้ชุมนุม และใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์”



เอกสาร ส่วนราชการ สยก.ศอฉ. ที่ กห.1407.55 (สยก.) ลงวันที่ 17 เม.ย. 53 เรื่อง “ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจและสายตรวจเคลื่อนที่” ลงนามโดย พล.ท.อักษรา เกิดผล หน.สยก.ศอฉ. เสนอ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ. 
โดยในข้อ 2.5 ระบุว่า “ในกรณีพบ ความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญที่ ศอฉ. กำหนด ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุ เพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้ แต่หากผู้ก่อเหตุอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุมจนอาจทำให้การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้งดเว้นการปฏิบัติ ยกเว้นในกรณีที่หน่วยได้จัดเตรียมพลแม่นปืน (Marksmanship) ที่มีขีดความสามารถเพียงพอให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้ นอกจากนี้หากหน่วยพบเป้าหมายแต่ไม่สามารถทำการยิงได้ เช่น เป้าหมายอยู่ในที่กำบัง ฯลฯ หน่วยสามารถร้องขอการสนับสนุนพลซุ่มยิง (Sniper) จาก ศอฉ. ได้”

ต่อมามี ที่การออกหนังสือที่ กห.0407.45 (สยก./130) ลงวันที่ วันที่ 17 เม.ย. 53 “เรื่อง ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่” เรียน ผอ. ศอฉ. โดย พล.อ. รอง เสธ.ศอฉ. (3) 18 เม.ย. 54
โดยในท้ายเอกสารมีข้อความว่า “อนุมัติตามเสนอในข้อ 4” ลงนามโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ในฐานะ ผอ.ศอฉ. โดยลงนามวันที่ 18 เม.ย. 53
โดยก่อนหน้านี้ ในการแถลงข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ 16 ส.ค. 55 กล่าวปฏิเสธว่าไม่มีการใช้สไนเปอร์ เป็นเพียงปืนติดลำกล้องเพื่อใช้ระวังป้องกัน ซึ่งในตลาดนัดก็มีขายสำหรับใช้ยิงนก ขณะที่เมื่อ 16 พ.ค. 53 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ก็ปฏิเสธว่าไม่มีการใช้สไนเปอร์ มีเพียง “พลแม่นปืนระวังป้องกัน” ทำหน้าที่คุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ต่ำหรือตามถนนหนทางโดยทั่วไป เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะมีหน้าที่ในการตรวจสอบว่ามีบุคคลผู้ใดถืออาวุธหรือจะ เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ และจะใช้การยิงคุ้มครอง (อ่านข่าวย้อนหลัง)
ต่อมาเมื่อ 18 มี.ค 54 พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้นำรายงานบัญชีสรุปรายการเบิกจ่ายกระสุนจากหน่วยคลังแสงสรรพาวุธทหารบก เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตั้งแต่ 11 มี.ค. 53 จนถึงเสร็จสิ้นการโดยมีการเบิกกระสุนจากคลังแสงทหารบกกว่า 597,500 นัด ส่งคืน 479,577 นัด ใช้ไป 117,923 นัด เผยมีการเบิกกระสุนปืนซุ่มยิง 3,000 นัด คืนเพียง 880 นัด ขณะที่เบิกกระสุนซ้อมเพียง 10,000 นัด ส่งคืน 3,380 นัด (อ่านข่าวย้อนหลัง)
สำหรับรายละเอียดเอกสาร  สยก.ศอฉ. ที่ กห.1407.55 มีรายละเอียดดังที่ปรากฏในท้ายข่าว

000
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ สยก.ศอฉ.
ที่ กห. 1407.55 (สยก.)/130 วันที่ 17 เม.ย. 53

เรื่อง ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจและสายตรวจเคลื่อนที่
เรียน ผอ.ศอฉ.
อ้างถึง 1. หนังสือ สยก.ศอฉ. ที่ กท. 0407.45 (สยก.)/13 ลง 8 เม.ย. 53
2. หนังสือ สยก.ศอฉ. ลับ - ด่วนที่สุด ที่ คห.0407.45 (สยก.)/106 ลง 15 เม.ย. 53

สิ่งที่ส่งมาด้วย แนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ศอฉ. ในการใช้อาวุธสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่
1. ตามที่ รอง นรม./ผอ.ศอฉ. ได้กรุณาอนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ศอฉ. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ และประจำจุดตรวจ/ด่านตรวจในพื้นที่ นำไปใช้ยึดถือปฏิบัติ รายละเอียดตามอ้างถึง 1 นั้น
2. เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ปรากฏว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมากับกลุ่มผู้ชุมนุม และใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วย และสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่ ได้มีกรอบแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมกับสถานการณ์ดังกล่าว สยก.ศอฉ. จึงได้พิจารณาปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติโดยเพิ่มเติมและแก้ไขรายละเอียดการ ปฏิบัติฯ ตามข้อ 1 ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้.-
2.1 แนวทางปฏิบัติทั่วไป ในหัวข้อการใช้อาวุธในการป้องกันตนเองและรักษาความปลอดภัยฯ ได้เพิ่มเติมข้อความเกี่ยวกับการป้องกันบุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของทางราชการ และเอกชนที่อยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง ให้หน่วยกำหนดแนวห้ามผ่านเด็ดขาด โดยให้ทำเครื่องหมายหรือประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มากดดันทราบ และในหัวข้อการปฏิบัติภายหลังเกิดเหตุ ได้แก้ไขให้เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลผู้ก่อเหตุตามหลักมนุษยธรรม ภายหลังจากที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
2.2 แนวทางปฏิบัติเฉพาะเหตุการณ์ ในกรณีผู้ชุมนุมพยายามที่จะบุกรุกเข้ามาในที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญที่ ศอฉ. กำหนด: ได้เพิ่มเติมรายละเอียดการปฏิบัติโดยให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้โล่และไม้พลอง ยาว เพื่อต้านทานการบุกรุก และเมื่อมีแนวโน้มจะต้านทานไม่อยู่ให้ใช้การฉีดน้ำ และ/หรือคลื่นเสียงได้ แต่ถ้าผู้ชุมนุมยังสามารถปีนรั้ว/เครื่องกีดขวาง/ฝ่าแนวห้ามผ่านเด็ดขาดเข้า มาได้ หากมีผู้บุกรุกมีจำนวนน้อยและไม่มีอาวุธ ให้เข้าทำการจับกุม หากมีจำนวนมาก ให้ใช้แก๊สน้ำตา, กระบอง, กระสุนยาง และยิงเตือนตามลำดับและเมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนแล้ว ผู้ชุมนุมยังคงบุกรุกเข้ามาจนอาจก่อให้เกิดอันตราย ให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธตามสมควรแก่เหตุ โดยการใช้กระสุนจริงจาก ปลซ. และ ปลย. ตามลำดับ ทั้งนี้ หากผู้บุกรุกมีอาวุธเช่น มีด, ปืน, วัตถุระเบิด ฯลฯ และฝ่าแนวห้ามผ่านเด็ดขาดเข้ามาได้ เจ้าหน้าที่สามารถข้ามขั้นตอนการใช้แก๊สน้ำตา, กระบอง หรือกระสุนยาง ไปสู่การใช้กระสุนจริงได้ โดยในการใช้อาวุธกระสุนจริง ทั้งสองกรณี ผู้มีอำนาจตกลงใจสั่งการ คือ ผบ.หน่วยที่รับผิดชอบสถานที่นั้น หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
2.3 แนวทางการปฏิบัติเฉพาะเหตุการณ์ในกรณีการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ: ได้เพิ่มเติมข้อความ ในกรณีพบผู้ต้องสงสัย ซึ่งไม่ยอมให้ตรวจค้น/จับกุม และกำลังจะหลบหนี ให้ทำการยิงเตือน, ติดตาม และสกัดจับ รวมทั้งใช้อาวุธตามหลักเกณฑ์ในการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย และสมควรแก่เหตุ
2.4 แนวทางปฏิบัติเฉพาะเหตุการณ์ ในกรณีพบความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุเตรียมใช้อาวุธ/วัตถุระเบิด: ได้เพิ่มเติมรายละเอียดในการเข้าจับกุม โดยเจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธประจำกายเล็งไปยังผู้ก่อเหตุได้ และถ้าผู้ก่อเหตุพยายามหลบหนีให้ใช้เทคนิคการต่อสู้ระยะประชิด, การยิงเตือน และการใช้อาวุธยิงในจุดที่ไม่สำคัญของร่างกาย เพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของผู้ก่อเหตุตามลำดับ
2.5 แนวทางปฏิบัติเฉพาะเหตุการณ์ ในกรณีพบความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญที่ ศอฉ. กำหนด ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุ เพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้ แต่หากผู้ก่อเหตุอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุมจนอาจทำให้การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้งดเว้นการปฏิบัติ ยกเว้นในกรณีที่หน่วยได้จัดเตรียมพลแม่นปืน (Marksmanship) ที่มีขีดความสามารถเพียงพอให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้ นอกจากนี้หากหน่วยพบเป้าหมายแต่ไม่สามารถทำการยิงได้ เช่น เป้าหมายอยู่ในที่กำบัง ฯลฯ หน่วยสามารถร้องขอการสนับสนุนพลซุ่มยิง (Sniper) จาก ศอฉ. ได้
3. สยก.ศอฉ. พิจาณาแล้วมีความเห็น ดังนี้
3.1 แนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ศอฉ. สำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่ ตามข้อ 2 ได้ปรับปรุงในรายละเอียดการปฏิบัติให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่ง ขึ้น โดยสอดคล้องกับการพัฒนาของสถานการณ์ ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมากับกลุ่มผู้ชุมนุม และใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดโจมตีต่อเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธในการป้องกันตนเองและบุคคลอื่น รวมทั้ง ทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนที่อยู่ในความคุ้มครอง ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น จึงเห็นสมควรอนุมัติให้ยกเลิกแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ศอฉ ตามข้อ 1 และอนุมัติให้หน่วยที่เกี่ยวข้องใช้แนวทางการปฏิบัติในการ รปภ. ที่ตั้งหน่วย และสถานที่สำคัญฯ ตามข้อ 2 เป็นแนวทางการปฏิบัติต่อไป
3.2 สำหรับแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้ง บก.ศอฉ ตามที่อ้างถึง 2 นั้น ได้กำหนดแนวทางการใช้อาวุธ และแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต่อกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวปะปนมากับกลุ่ม ผู้ชุมนุม ซึ่งยังคงมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันจึงเห็นสมควรให้หน่วยยึดถือเป็น แนวทางปฏิบัติ ในการ รปภ. ที่ตั้ง บก.ศอฉ. ได้ต่อไป
4. ข้อเสนอ เห็นสมควรดำเนินการตามการพิจารณาในข้อ 3 ดังนี้
4.1 ยกเลิกแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ศอฉ. ตามข้อ 1
4.2 อนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ ศอฉ. สำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วย และสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่ ตามข้อ 2
จึงเรียนมาเพื่อกรุณาพิจารณาอนุมัติตามเสนอในข้อ 4
(ลายมือชื่อ) พล.ท.อักษรา เกิดผล
หน.สยก.ศอฉ.




แนวทางการปฏิบัติของ เจ้าหน้าที่ ศอฉ. ในการใช้อาวุธสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่
1.แนวทางการปฏิบัติทั่วไป
1.1 แนวทางการปฏิบัตินี้ ใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาที่ตั้ง หน่วย และสถานที่สำคัญ รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่ซึ่งอนุญาตให้กำลังพลสามารถใช้อาวุธประจำกายและอาวุธ ปืนพกได้ตามความจำเป็นของสถานการณ์
1.2 การใช้อาวุธในการป้องกันตนเอง และรักษาความปลอดภัยฯ ต้องการเป็นป้องกันอันตรายที่ใกล้จะมาถึง และเป็นอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินทางราชการ และเอกชนที่อยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ก่อเหตุกำลังระเบิดใส่ กำลังเล็งปืนใส่ กำลังถือมีดเข้าทำร้ายร่างกาย เป็นต้น
1.3 การป้องกันตนเองและรักษาความปลอดภัยฯ ต้องเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่น และสมควรแก่เหตุ รวมทั้งการใช้อาวุธนั้น ต้องใช้เท่าที่จำเป็น จากเบาไปหาหนัก และมีแจ้งเตือนการปฏิบัติกับผู้ก่อเหตุก่อนเสมอ
1.4 การใช้อาวุธจะไม่อนุญาตให้ใช้ในสถานการณ์ที่ไม่กระจ่างชัด หรือการใช้อาวุธที่ปราศจากความแม่นยำ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ไม่เกี่ยวข้องได้ เช่น การยิงกราด การยิงสุ่ม และการยิงที่ไม่เล็ง รวมทั้งไม่อนุญาตให้ใช้การยิงอัตโนมัติ โดยหากจะใช้อาวุธต้องทำการยิงทีละนัดเท่านั้น และห้ามใช้อาวุธเล็งศีรษะหรือส่วนสำคัญของร่างกายโดยเด็ดขาด
1.5 ให้หน่วยกำหนดแนวทางห้ามผ่านเด็ดขาดบริเวณที่ตั้งหน่วย และสถานที่สำคัญ รวมทั้งใช้เครื่องหมายหรือประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มากดดันทราบ
1.6 หากมีความจำเป็นในการใช้อาวุธแล้ว ต้องใช้ตามลำดับขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 แจ้งเตือนด้วยวาจา ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีระดับความดังเสียงที่ผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และกล่าวซ้ำหลายๆ ครั้ง อย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อให้ผู้ก่อเหตุหยุดการกระทำดังกล่าว ... "หยุดนี่คือเจ้าหน้าที่"
ขั้นที่ 2 การยิงเตือนขึ้นฟ้า หรือเป็นการยิงในทิศทางที่ปลอดภัย
ขั้นที่ 3 การใช้อาวุธตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและสมควร แก่เหตุ สรุปคือเป็นการยิงที่ไม่ประสงค์ให้ผู้ก่อเหตุเป็นอันตรายถึงชีวิต
ทั้งนี้ การปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวอาจปฏิบัติข้ามการปฏิบัติเป็นขั้นที่ 2 หรือ 3 โดยทันที ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้ประสบกับภัยคุกคามที่ใกล้จะมาถึงและเป็นอันตรายต่อ ชีวิตของตนเองและบุคคลอื่นที่อยู่ในความคุ้มครองของเจ้าหน้าที่


เหตุการณ์ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่อนุญาตให้ทำได้
ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธวัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยหรือสถานที่สำคัญ
1) ใช้อาวุธตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย และสมควรแก่เหตุโดยสามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุ เพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้
2) หากผู้ก่อเหตุอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุมจนอาจทำให้การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ให้งดเว้นการปฏิบัติยกเว้นในกรณีที่หน่วยได้จัดเตรียมพลแม่นปืน (Marksmanship) ที่มีขีดความสามารถเพียงพอให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้
3) ในกรณีที่หน่วยพบเป้าหมายแต่ไม่สามารถทำการยิงได้ เช่น เป้าหมายอยู่ในที่กำบังหน่วยสามารถร้องขอการสนับสนุนพลซุ่มยิง (Sniper) จาก ศอฉ. ได้
หมายเหตุ:
1. เมื่อผู้ชุมนุมมีการรวมตัวที่บริเวณภายนอกที่ตั้งหน่วย หรือสถานที่สำคัญให้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ชุมนุทราบว่า หากมีการบุกรุกเข้ามา เจ้าหน้าที่จะมีขั้นตอนการปฏิบัติและการใช้อาวุธอย่างไร โดยให้มีการประกาศซ้ำหลายๆ ครั้ง
2. แนวทางการใช้อาวุธตามคำแนะนำฯ นี้ ไม่จำกัดสิทธิ์ในการใช้อาวุธเพื่อป้องกันตนเองและบุคคลอื่นจากการกระทำของ ผู้ก่อเหตุ ที่เป็นไปโดยสมควรแก่เหตุ
3. กรณีประสบเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสให้เจ้าหน้าที่ที่ประสบเหตุสามารถใช้อาวุธ เพื่อระงับเหตุการณ์นั้นๆ ได้ โดยไม่ต้องรอฟังคำสั่งใดๆ
4. ห้ามใช้อาวุธยิงใส่ยานพาหนะต้องสงสัยใดๆ ที่ขับฝ่าด่านตรวจ/จุดตรวจ/จุดสกัด โดยให้จดจำเลขทะเบียนและลักษณะที่สำคัญแจ้งให้หน่วยในพื้นที่ใกล้เคียง (ทั้งทหาร - ตำรวจ) ดำเนินการสกัดให้หยุดและตรวจค้น เว้นแต่ได้รับแจ้งยืนยันแน่ชัดแล้วว่ายานพาหนะนั้นเป็นการหลบหนีของผู้ก่อ เหตุ จึงสามารถใช้อาวุธยิงโดยเล็งที่บริเวณเครื่องยนต์หรือหม้อน้ำของยานพาหนะ เพื่อสกัดให้หยุดการเคลื่อนที่
5. ยานพาหนะที่จงใจขับพุ่งชนเพื่อฝ่าแนวต้านทานเข้ามาในที่ตั้งหน่วย หรือสถานที่สำคัญที่ ศอฉ. กำหนด ให้สามารถใช้อาวุธยิงเพื่อหยุดยานพาหนะนั้นได้โดยเล็งที่บริเวณเครื่องยนต์ หรือหม้อน้ำของยานพาหนะ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติเป็นสำคัญ รวมทั้งต้องประกาศให้ผู้ก่อเหตุทราบ ในลักษณะ "หยุด ถ้าไม่หยุดเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ"
 http://prachatai.com/journal/2012/08/42125?utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter&utm_campaign=Feed%3A+prachatai+%28%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97+Prachatai.com%29

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หม่อมเต่านาจัดหนัก "ฝ่ายค้าน อย่าโหนเจ้า อย่ากล่าหาคนอื่นลอยๆ 'มันกระจอก'

Taona Sonakul
Yesterday near Bangkok
--------------------
หลังจากเสร็จการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่หวังว่าจะจบลงโดยปราศจากการปาข้าวของ การกระแนะกระแหนจนปี๊ดแตกเองในสภาแล้ว... อยากรบกวนให้ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำงบประมาณการเยือนต่างประเทศของหัวหน้าฝ่ายค้านที่หนังสือพิมพ์บางฉบับแจ้งว่ามีประมาณ 8 ล้านบาทต่อปี.. รบกวน นายอภิสิทธิ์ ช่วยใช้งบนี้เดินทางไปประเทศ กำพูชา เพื่อ นำอาหารมั
งวิรัส ไปเยี่ยมคาระวะนาย วีระ และที่สำคัญที่สุดคือไปขอโทษ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์...ในฐานะที่ นายอภิสิทธิ์ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนแรกที่จัดการบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพจัดจน มีผลให้สตรีสูงอายุชาวไทยคนหนึ่ง ต้องถูกจำคุกอยู่ในประเทศเขมรมา เป็นเวลา 1 ปี 8 เดือนแล้ว.. รบกวน นายอภิสิทธิ์ ช่วงแสดงภาวะผู้นำ ภาวะลูกผู้ชาย หรือ เอาแค่ง่ายๆ.. ภาวะความเป็นมนุษย์.. โดยการไปเยี่ยมท่านทั้งสองเหล่านี้ด้วย.. สำหรับเราแล้ว นส ราตรี คือผู้หญิงที่ นายอภิสิทธิืควรจะทุ่มแรงและเวลาหมั่นไปพูดด้วยให้มากที่สุด... งบประมาณไปต่างประเทศก็มีอยู่แล้ว.. อย่าเอาแต่ไปใช้บินไปพม่า เพื่อถ่ายรูปกับ นางออง ซาน ซูจี เลย..สุภาพสตรีท่านนั้นเขามีคนคอยเยี่ยมคอยขอถ่ายรูปด้วยอยู่ทุกวันอยู่แล้ว.. ท่านเอาเวลาไปหมั่นดู นส ราตรี เถอค่ะ เผื่อๆจะได้หมดกรรมหมดเวรกันไป

Taona Sonakul
ช่วงสองปีนี่เราไม่ดูที วี ที่คอนโดไหนๆก็ไม่มีเคเบิ้ล อยากดูอะไรจะดูจากคอมพิวเตอร์เอา เพราะมันเร็ว ไม่เยิ่อนเย้อ เจาะลึกลงไปเรื่อยๆได้ เนื่องจากวันนี้นอนโรงแรม ด้วยความซวยอย่างแรง เมื่อเข้าห้องพนักงานโรงแรมก็เปิดที วีให้ เจออภิปรายในสภาของฝ่ายค้านพอดี ท่านผู้อภิปราย กล่าวว่า งบที่กระทรวงกลาโหมจัดไว้ สำหรับการจัดการกับเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่าน้อยเกินไปคือแค่ แปดล้านบาท และก็พยา
ยามพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า รมต กลาโหม ไม่แคร์เรื่องการดูแลเรื่องคดีหมิ่น เพราะตั้งงบแค่แปดล้าน น้อยไป และทำนองว่าเอาเวลาไปกลั่นแกล้งนาย อภิสิทธิ์ เรื่องใบ สด แทน แต่ผุ้อภิปรายก็ไม่สามารถบอกได้ว่างบที่ถูกต้องสำหรับเรื่องนี้ควรเป็นเท่าไหร่และเอาไปทำอะไร ใช้อย่างไร ??? และขนาดเราไม่มีที วี ยังทราบเลยว่า รมต กลาโหม ถูกสส ยื่นคำร้องฟ้องว่า ท่านละเลยไม่ปฎิบัติหน้าที่เรื่อง ที่มีผู้ร้องให้ตรวจสอบเรื่องนาย อภิสิทธิ์ หนีทหาร ทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป ถ้าท่านไม่ตรวจสอบ ท่านรมต ก็จะทำผิดกฏหมายเอง ก็สรุปสั้นๆละกันคือ ถ้าหากฝ่ายค้านไม่รู้จะทำอะไร ดี ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ ก็นั่งดูคลิปโป้ หรือ เล่นเกมส์ แองกี้ เบิร์ด แข่งกันไปละกัน อย่าพยายามโหนเจ้าอีกเลย โหนมาเยอะแล้ว พอเถอะ ช่วยแสดงความจงรักภัคดีโดยการหยุดโหนและกล่าวหาคนอื่นลอยๆซะทีเถอะ มันกระจอกค่ะ

ประยุทธ บอก "ไม่เคยซุ่มยิงสลายชุมนุม"


กล้องยิงนก ขอยืมมายิงนก บ้าน ประยุทธ หน่อย

ประยุทธ มันเป็นทหารหรือเปล่าฟร่ะ???
------------------------------------
"สไนเปอร์อะไร ใครใช้สไนเปอร์ เรียกสไนเปอร์ที่ไหน แล้วสไนเปอร์เขาเป็นใครรู้ไหม อันนั้นผมคิดว่าในรูปเป็นทหารที่เขาติดกล้องเฉยๆ และกล้องตัวนั้นไม่ใช่สไนเปอร์ และปืนตัวนั้นก็ไม่ใช่แบบสไนเปอร์"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สโมสรทหารบก, 16 ส.ค. 55

กวีไกร สลิ่มถ่อยโดนมือดีสั่งสอนแจกลูกตะกั่วให้ไป2นัด

มันกวนตรีน แบบนี้ไง
เพิ่มคำอธิบายภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มาดูภาระกิจแรก ของ แก้ว ฮีโร่โอลิมปิกกัน น่ารักมาก

ขอบคุณเจ้าของคลิป 

ตัวอย่างการสัมภาษณ์ ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างเยือนแอลเอ ในเช้าวันที่ 12 สิงหาคม 2012

สยามทาวน์ยูเอส สัมภาษณ์ Exclusive ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างพำนักอยู่ในนครลอส แอนเจลิส ในทุกประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ เช่น การขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้มาโดยมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนจริงหรือไม่, หวังจะได้อะไรจากการเข้ามาอเมริกา, วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์, พรบ.ปรองดองควรจะเดินหน้าหรือหยุดยั้ง, การปรับครม. และอนาคตของนักการเมืองบ้านเลขท่ี 111, บทบาทของ โรเบิร์ท อัมสเตอร์ดัม, ความรู้สึกปัจจุบันหลังการถูกรัฐประหารมาหกปีเต็ม, เบื้องหลัง “โหวตโน” ของพันธมิตร และคิดอย่างไรกับ สนธิ ลิ้มทองกุล.... ฯลฯ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใหัสัมภาษณ์แบบ Exclusive กับสยามทาวน์ยูเอส ณ โรงแรมที่พักในย่านเบฟเวอรี่ฮิลส์ เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 12 สิงหาคม 2012 ในหลายๆ เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ กรุณาติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มทางหนังสือพิมพ์สยามทาวสน์ยูเอส (www.siamtownus.com) วางแผงวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2012 หรือชมวิดีโอคลิปสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ทางเว็บไซต์ (siamtownus.com) และทางเฟสบุ๊กของสยามทาวน์ฯ (www.facebook.com/siamtownus) ตั้งแต่วันอาทิย์ที่ 19 สิงหาคม 2012 เป้นต้นไป


วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"ป้าอุ๊" "ทุกเวลานาทีมีค่า ไม่อยากให้นักโทษ 112 ได้รับอิสรภาพพร้อมกับน้ำตาของครอบครัว"

"ป้าอุ๊" เผยทุกเวลานาทีมีค่า ไม่อยากให้นักโทษ 112 ได้รับอิสรภาพพร้อมกับน้ำตาของครอบครัว
-
"ป้าอุ๊" ภรรยาอากง กล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และอยากให้นักโทษทุกคนได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว เพราะทุกเวลานาทีมีค่า ไม่อยากให้นักโทษ 112 ได้รับการปล่อยตัวพร้อมกับน้ำตาของครอบครัว เหมือนกับที่ตนเองและครอบครัวประสบ อิสรภาพที่ปราศจาก ลมหายใจ มีแต่ซ้ำเติมความเจ็บปวด และไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ

นางรสมาริน ตั้งนพคุณ (ป้าอุ๊) ภรรยานายอำพล ตั้งนพคุณ (อากง) กล่าววิงวอน ขอให้ผู้ที่สามารถให้โอกาสแก่ผู้ต้องหาหรือนักโทษคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้ ขอพิจารณาให้โอกาส เพื่อให้ได้ ออกมาอยู่กับครอบครัวโดยเร็ว พร้อมแสดงความเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนผู้ประสบภัยเช่นตน

Thailand Mirror รายงาน

โธ่เอ่ย มัลลิกา ที่เกลียดทักษิณเพราะไม่ส่งลง สส.พะเยาว์

โธ่เอ่ย มอลลี่ ที่แท้ก็แค่คนอกหัก.............
---------------------
อันนี้ คือ รูป "มัลลิกา" สมัยเข้าพบ "ท่านทักษิณ" นานมาแล้ว เพราะอยากร่วมกับพรรคพลังประชาชนด้วย โดยของลงพื้นที่ที่พะเยา
เรื่องของเรื่อง คือ สส.พะเยา สมัยนั้นจะย้ายไปอยู่ประชาธิปัตย์ แล้วมอลลี่จะเสียบแทน แต่สุดท้ายสส.ชายคนนั้นไม่ย้าย มอลลี่เลยย้ายไปประชาธิปัตย
มัลลิกาเลยแค้นที่คุณทักษิณ ไม่ได้ส่งตนเข้าลงสมัคร เลยไปอยู่ประชาธิปัตย์ถล่มคุณทักษิณและธาตุไฟเข้าแทรกตั้งแต่นั้นมา

คลิปเสียงท่านทักษิณ ปราศรัย กับคนเสื้อแดงUSA


หม่อมเต่านาส่งกำลังใจให้คุณหญิงพจมาน และ โอ๊คพานทองแท้


Taona Sonakul
about an hour ago near Bangkok
-+--------------------
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร ในเรื่องต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น..ในฐานะคนไทยที่ไม่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย หรือให้การสนับสนุนใดๆกับกิจการของ พ ตท ทักษิณ และครอบครัว ออกจะไปทางแนวหลีกเลี่ยงในการสนับสนุนด้วยซ้ำ.. อยากบอกให้คุณหญิงทราบว่า ดิฉันเข้าใจในหัวอกความห่วงใยที่แม่ทุกคนพึงมีต่อลูก และอยากให้คุณหญิงสบายใจได้ว่า เรื่องทุกเรื
่องของทุกคนที่กำลังถุกกลับนำมาโจมตี อีกครั้งไปๆมา เป็นเรื่องที่พวกเรารู้ดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องส่วนตัวของ นายพานทองแท้ ชินวัตร.. ดิฉันก็รู้สึกว่าก็เป็นแค่เรื่องของการเติบโตของเด็กคนหนึ่ง ที่ย่อมต้องเดินผิด เดิน ถูก บ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะไม่ว่านายพานทองแท้จะทำอะไร ก็แค่ทำกับตัวเองและครอบครัว ไม่ได้ทำให้ใครตาย.. ดิฉันกลับเห็นว่าเป็นโอกาศดีที่ นายพานทองแท้ จะได้ใช้โอกาสนี้ แก้ต่างให้กับตนเอง.. ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต้องแก้ หรือถ้าหากจะทำกันถึงขั้นฟ้องร้อง ก็พึงทำกันไป... ดิฉันไม่รู้สึกอะไร ยังไง ยังไง ณ จุดนี้หากไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชน โดย สสร ดิฉันก็จะไม่มีวันเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ที่เขียนนี่แค่อยากเป็นกำลังใจ และโดยส่วนตัวอยากให้ นายพานทองแท้ เลือกที่จะสู้กับข้อกล่าวหาต่างๆทั้งที่จริงหรือไม่อย่างไร ให้ถึงที่สุด เพราะมันคือโอกาสดีที่นายพานทองแท้ จะได้พิสูทธิ์ และตอบกับตัวเองได้ว่า.. ตัวเขาเองนั้นมีความแข็งแกร่งแค่ไหน เพราะอะไรที่ไม่สามารถทำลายเราได้ มีแต่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นค่ะ

...เก็บตกจากแอลเอ....ลุงเสื้อแดง ผู้กล้าหาญ

...เก็บตกจากแอลเอ....
--------------------
Jim Bandon
10 minutes ago

พธม. เมกา เหิม ยึดเวที งานถวายพระพร

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2555 พธม.ได้รวมตัวประท้วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลาง Thaitown Hollywood โดยหญิงกลางคนได้ขว้างปาสิ่งของใส่รถและพยายามถีบรถ" ท่านสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ "โดยเข้าใจว่านั่นคือขบวนรถของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร.....กลุ่มพธม.เริ่มรวมตัวกันตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 3 โมง หน้าร้านอาหารระเบียงไทยซึ่งถัดจาก ThailandPlaza ใจกลางถ.Hollywood โดยมีชายถือโทรโข่งเป็นผู้นำการก่อกวนครั้งนี้ และผู้ร่วมก่อกวนบางคนถูกเจ้าหน้าที่ LAPD ซึ่งรักษาการณ์หน้าทางเข้าออก Thailand Plaza เข้าจับกุม

https://www.facebook.com/red.usa.LA

พธม.แอลเอ ยึดเวทีวัดไทยพร้อมกับถ่ายรูปร่วมกัน
ทำให้กำหนดการการเข้าถวายพระพรของทักษิณต้องยกเลิกไป
-------------------------------------------------------------------------------
สรุป ไม่ว่าท่านทักษิณจะไปหรือไม่ไปร่วมถวายพระพรฝ่ายเสื้อแดงก็จ
ะมี ทั้งพอใจและไม่พอใจ ส่วนฝ่ายเสื้อเหลืองนั้นไม่ว่าจะยังไงพวกนี้พอใจอย่างเดียว คือ ท่านทักษิณไม่ต้องเข้าไปเหยียบแผ่นดิน USA ทำอย่างกับว่าเป็นแผ่นดินของพวกมันทั้งๆที่พวกนี้ก็ไปอาศัยเขาอยู่

แม้แต่ผู้นำประเทศเขาก็ยังอนุญาตให้ท่านทักษิณเข้าประเทศได้ พลเมืองเขาก็ไม่เห็นมีใครออกมาคัดค้าน ออกมาสร้างเรื่องสร้างราวฉาวโฉ่อย่างที่พวกเสื้อเหลืองทำกัน ไอ้เรื่องโง่ๆแบบนี้ชอบทำชอบโชว์โง่นัก
ขอบคุณรูปและข้อมูลจาก คุณ  Jim Bandon
 http://www.facebook.com/jim.bandon

ถ้าม็อบเหลืองในอเมริกามันมีพลังจริง
ป่านนี้ เจ๊ดา คงเผ่นป่าราบไปแล้ว
ไม่มาเดินฉุยฉายต่อหน้าพวกมันอย่างนี้หรอก หึหึหึ

ข้อเท็จจริงคือว่า พธม.หญิงรายนี้ใช้เท้าไปสะกิดคนเสื้อแดงก่อน
เลยโดนแจ้งจับล็อคกุญแจมือ
แต่พอตำรวจถามเสื้อแดงว่า ต้องขึ้นศาลนะจะเอาเรื่องมั้ย
เสื้อแดงก็ตอบปฎิเสธที่เอาเรื่องเอาความต่อกัน
(คงไม่อยากจะเรื่องมาก) เลยถูกปล่อย 


วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประมวลภาพ ทัพนักกีฬา อลป. สู่อ้อมกอดคนไทย









นายกฯเลี้ยงต้อนรับคณะนักกีฬาทีมชาติไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่อังกฤษ และเอเชี่ยนบีชเกมส์ที่จีน














ดูคลิปเต็มๆกับความถ่อยเถื่อนของ พธม.USA

  บันทึกเบื้องหลังพันธมิตรฯ ชุมนุมต้าน"แม้ว"โดย พันธมิตรฯ ในซานฟรานซิสโก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000099981

แก้วฮีโร่โอลิมปิกมาถึงแล้ว

เดี่ยว 9.5 - โน๊ต อุดม แต้พานิช part 1/1

ความถ่อยเถื่อน ของ พธม. ข่าวลึกๆคือต้องการให้เกิดปัญหา เพื่อนำไปสู่การถอนวีซ่าของท่านนายกฯทักษิณ

แกนนำ พธม. USA
เหตุผลที่ทำไม ต้องยกเลิกงาน เลี้ยงต้อนรับ นายกทักษิณ ที่แอลเอ...กะทันหัน
---------------------------
ข่าวล่าสุดจากแอลเอ..........ทำไมท่านนายกฯทักษิณเปลี่ยนแผนเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่แอลเอ...กะทันหัน
ที่ท่านนายกฯทักษิณเปลี่ยนแผนกระทันหัน
เหตุผลหลักไม่ใช่เรื่องของระบบความปลอดภัย
และพวกเสื้อเหลือง 200 ไม่เกิน 300 คนก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ข่าวลึกๆคือต้องการให้เกิดปัญหา
เพื่อนำไปสู่การถอนวีซ่าของท่านนายกฯทักษิณ
ด้วยสาเหตุเป็นตัวเจ้าปัญหา ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในประเทศ
ทำให้ท่านนายกฯทักษิณกลายเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของรัฐบาลอเมริกัน
การปฏิเสธวิซ่าเข้าประเทศจึงมีความชอบธรรม
และหากแผนเชือดท่านนายกฯทักษิณเกิดขึ้นจริงตามความต้องการของใครก็ตาม มันคือการฉีกหน้าทางการเมืองข้ามโลกครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ที่จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ มากกว่าอุทกภัยครั้งที่เพิ่งผ่านมาหลายเท่านัก การเปลี่ยนแผนไม่เข้าร่วมงานของคนเสื้อแดงแอลเอจึงเป็นความจำเป็น แต่ท่านนายกฯทักษิณก็ได้โฟนอินเข้ามาเป็นการชดเชย

คนเสื้อเหลืองใช้วิชามารสารพัดอย่างเพื่อสะกัดกั้น
ไม่ให้คนเสื้อแดงไหลบ่าเข้าศูนย์อาหารไทยแลนด์พลาซ่า
โดยการออกข่าวไปทั่วว่ามีการวางระเบิด ถ้าใครเข้าร่วมงานอาจต้องสูญเสียชีวิต
รวมทั้งเป่าประกาศไปทั่วว่าใครไม่มีใบเขียว ถ้าเข้าร่วมจะแจ้งอิมมิเกรชั่น
ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการก่อกวนเพื่อปลดป้ายต้อนรับ ในเวลากลางดึกก่อนวันงาน
เอาของสกปรกไปขว้างปา สถานที่จัดงานในยามวิกาล
อีกทั้งพยายามปิดล้อมทางเข้าไม่ให้คนเสื้อแดงเข้าไปยังสถานที่จัดงานใน ตอนกลางวัน แต่คนเสื้อแดงก็ยังมารวมตัวกันมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทั้งที่คนเป็นร้อยเข้าสถานที่จัดงานไม่ได้ บ้างเกิดความกลัวจากการถูกข่มขู่
ก็เปลี่ยนใจไม่มา บ้างขับรถผ่านมาถึงที่แล้วเกรงเกิดความวุ่นวายก็ขับรถเลยไป
ประมาณจำนวนคนที่มาร่วมงาน ไม่น่าจะตำกว่า 700-800 คงมีคนอัพโหลดรูปให้ได้ชมกันบ้างแล้ว ลองประมาณเอาจากรูปก็แล้วกัน คงจะพอคำนวนได้
เหตุผลทางการเมืองลึกๆ คงมีอีกหลายประการ .....
อาข่า USA.
ขอบคุณข้อมูลจากคุณMarnoch Chuposted

เมื่อไม่มีใครคุ้มกะลาัหัว -//- ด่วน! พันธมิตรฯUSA. เจอดีจนได้ ถูกตำรวจสหรัฐจับไปแล้ว 8 คน


พธม. ประเทศสหรัฐเจอดีจนได้ ถูกตำรวจ สหรัฐจับไปแล้ว 8 คน ข้อหาละเมิดขัดขว้างสิทธิเสรีภาพ ของอดีตนายกทักษิณ เพราะอดีตนายกทักษิณเป็นแขกรับเชิญของสหรัฐอเมริกา แต่ พธม. ไปใช้ประเทศเขาเคลือนไหวการเมืองของตัวเอง และเป็นการทำลัดขั้นตอน




ขอบคุณ รูป จากคุณ Go6 TV Community Page

twitter

ห้องแชทKonthaiuk