PEACE TV LIVE

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สาวไส้ “พิทักษ์สยาม” แหล่งซ่องสุมใหม่ “อดีตกบฎ-สาวกเหลือง-ปฏิปักษ์แดง-หางแถวไฮแจ๊คยึดสนามบิน”

สาวไส้ “พิทักษ์สยาม” แหล่งซ่องสุมใหม่ “อดีตกบฎ-สาวกเหลือง-ปฏิปักษ์แดง-หางแถวไฮแจ๊คยึดสนามบิน”

 http://www.siamleaks.com/top-news/2012/724.html


Posted by webmaster on 16 Nov 2012 / 0 Comment



เสธอ้าย “พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์” นัดหมู่มวลสมาชิก “องค์การพิทักษ์สยาม” ชุมนุม เกินล้าน ที่ “ลานพระบรมรูปทรงม้า” วันที่ 24 พฤศจิกายน 2555
แม้ฤกษ์เปิดเวทีปราศรัย จะต้องเลื่อนไปบ้าง เพราะ “ปาก” หัวหน้าม็อบ…ไม่ค่อยดี
แต่ก็ยังดูมั่นอกมั่นใจว่า จะสามารถ ปลุกปั่นให้ล้ม “รัฐบาล-แช่แข็งประเทศ” ได้
ได้ยินได้ฟัง “หัวหน้าม็อบ” โม้ว่า ม้วนเดียวจบ ไม่กี่วันจอด เป็นใครก็คง งง !!! ว่าปลุกกันแค่ 2-3 อาทิตย์ ชุมนุมกันแค่ 1-2 ครั้ง จะถึง “ฉากจบ” ได้อย่างไร
ก็เลยลองเปิดไปดู ProtectSiamOrganization.com ขอดูโครงสร้าง “องค์การ” เขาซะหน่อยว่าเนื้อใน นั้นแน่เท่าราคาที่คุยเอาไว้หรือเปล่า (แหม ดอทคอม มันหมายถึงคอมเมิร์ชเชียล ออกแนวพ่อค้ามากๆ)
ก็เปิดไปที่หน้า “คณะกรรมการ” ก็เจอกับ 18 รายชื่อกรรมการชัดเจน
  1. พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการองค์การพิทักษ์สยาม
  2. นายสมพจน์ ปิยะอุย รองประธานคณะกรรมการฯ ที่ 1
  3. พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ รองประธานคณะกรรมการฯ ที่ 2
  4. พลเอกณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ รองประธานคณะกรรมการฯ ที่ 3
  5. ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ กรรมการกิตติมศักดิ์
  6. นายไพศาล พืชมงคล กรรมการกิตติมศักดิ์
  7. น.พ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กรรมการกิตติมศักดิ์
  8. นายประสิทธิ์ ไชยทองพันธ์ กรรมการกิตติมศักดิ์
  9. นายกรหริศ บัวสรวง กรรมการ
  10. นายวรินทร์ เทียมจรัส กรรมการ
  11. น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์ กรรมการ
  12. นางสุภนิจ รัตนกาญจน์  กรรมการ
  13. นางปิยะนุช นาคคง กรรมการ
  14. น.ส.ขนิษฐา กิจเชวง กรรมการ
  15. นายเกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า กรรมการและผู้ประสานงาน
  16. นายนันทิวัฒน์ สามารถ กรรมการและเลขานุการ
  17. น.ส.สุนิสา โสรัยยะ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ซึ่งทันทีที่ชื่อปรากฏขึ้นมา มองเห็นเส้นทางแต่ละคน แต่ละท่านทันที
โดยเบอร์ 1  “เสธอ้าย” ผู้ตั้งตนเป็นหัวหน้าขบวนการนั้นนอกจากจะรู้กันว่าเป็น เพื่อร่วมรุ่นนักเรียนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 1 กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี  เป็นอดีตนายกสมาคมมวยสากล เป็นเลขาธิการกิตติมศักดิ์ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ
ก็ยังพอที่จะรู้กันว่าครั้งหนึ่งในอดีตเคยร่วมกับ “พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ” อดีตรอง ผบ.ทบ. ก่อการปฏิวัติ 26 มีนาคม 2520 แต่ไม่สำเร็จ จนต้องถูกจับเป็นกบฏมาแล้ว
เบอร์ 2 “สมพจน์ ปิยะอุย” คอการเมืองรุ่นใหม่ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่เมื่อค้นดูข้อมูลสักนิดก็จะพบว่า “เซี่ยง เส้า หลง” แห่งเว็บไซด์ผู้จัดการออนไลน์ เขียนเอาไว้เมื่อ 18 มิถุนายน 2547 ว่า เป็นนักธุรกิจ ที่เข้าไปร่วมเคลื่อนไหวการเมืองและมีส่วนกับการ “ปฏิวัติ 26 มีนาคม 2520” ซึ่งเป็นการ “ปฏิวัติ”ครั้งเดียวกันกับที่ “เสธอ้าย” ร่วมทำแล้วไม่สำเร็จ !
สมพจน์ ปิยะอุย
แรกๆ เห็นชื่อก็นึกว่าคนไกลที่ไหน…ก็คนกันเอง ท้างงงน้านนนนน
สำหรับลำดับถัดๆ มา แต่ละคนล้วนมีประวัติเคลื่อนไหวร่วมกับ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)” ทั้งสิ้น
ตั้งแต่ พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ, ปราโมทย์ นาครทรรพ ที่แค่เอ่ยชื่อ ก็ไม่ต้องบอกว่าเลือกที่จะเดินอยู่ข้างไหน
ไพศาล พืชมงคล
ไพศาล พืชมงคล”  เจ้าของสำนักทนายความ อดีต สนช.คนนี้ นี่ก็เหลืองจัด ชัดเจนแบบไม่มีข้อโต้แย้ง
ประสิทธิ์  ไชยทองพันธ์, วรินทร์ เทียมจรัส, น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงษ์” ซึ่งที่ผ่านมาก็ออกหน้าว่าตรงข้ามรัฐบาล แบบไม่แคร์สายตาสื่อ
กรหริศ บัวสรวง
กรหริศ บัวสรวง” นี่ก็ดูดวง ทำนาย ล้มรัฐบาลผ่านสื่อไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แล้วก็เคยสร้างความฮือฮามาแล้ว ด้วยการ ทำนายเมื่อ 30 ต.ค.54 ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะอยู่บริหารประเทศได้ไม่เกิน 90 วัน… (จนถึงวันนี้ก็เกิน 365 วันแล้ว) !!!
น.พ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง” นี่ก็เป็นหมอ ที่ออกมาแถลงประณาม “แกนนำคนเสื้อแดง” กรณีบุกค้น “ร.พ.จุฬาฯ” ว่าซ่อนสไนเบอร์หรือไม่ ก่อนเกิดเหตุสลายการชุมนุมปี 2553
วิรัตน์ รัตนชาติ” นี่เต็มไปด้วยโปรไฟล์ เคลื่อนไหวร่วมกันกลุ่มหลากสี
เกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า” ก็ยี่ห้อ พธม.หรา โดยในเว็บไซด์ผู้จัดการออนไลน์ รายงานเอาไว้เมื่อ 3 มกราคม 2552 ว่าเป็นหนึ่ง ในแกนหลัก พธม.ลำปาง ที่ไปต้อนรับ “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” แกนนำ พธม. ระหว่างเดินสาย หลังพาพรรคพวกบุกยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วย “พรรคประชาธิปัตย์” ขึ้นเป็น “รัฐบาล” เสร็จเรียบร้อย
เมื่อค้นข้อมูลพื้นหลัง ประวัติและพฤติกรรมการเคลื่อนไหวแต่ละคน แล้วเอะใจ !
เพราะสุดท้าย “องค์การพิทักษ์สยาม” มันก็แค่ “เหล้าเก่า” ในขวดใหม่
เปลี่ยนชื่อ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” รีแบรนด์ มาเรียกร้อง “รัฐประหาร” ครั้งใหม่ ด้วยวาทะกรรม “แช่แข็งประเทศไทย” !
เป็นแหล่งซ่องสุมใหม่ ของ “อดีตกบฏ-สาวกเหลือง-ปฏิปักษ์แดง-หางแถวไฮแจ๊คยึดสนามบิน” เท่านั้น !!!

กิจกรรม Flash Mob เทศกาลแช่แข็งประเทศไทย

กิจกรรม Flash Mob เทศกาลแช่แข็งประเทศไทย
วิธีการ....สวมชุดกันหนาวเต็มอัตราศึก ตั้งแต่เสื้อหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงน่อง ใครจะพกผ้าห่มมาด้วยก็ได้
เจอกันบน BTS สยาม ด้านใน เส้นทางที่จะไปจตุจักร เวลาเที่ยงตรง ของวันอาทิตย์ที่ 18 พย นี้
เส้นทาง......สยาม - จตุจักร และ กลับมาที่สยาม เพื่อไปกินไอติมเซเวนเซ่น ตั๋วรถไฟฟ้า ตี 15 บาทพอ เพราะวนกลับ
ส่วนเซเวนเซ่นเดี๋ยวหาคนเลี้ยง รับ 100 คน แต่งตัวมาแจ่ม ๆ นะสาว ๆ ส่วนผม ชุดนี้แน่นอน โชว์สะดือ


วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จับตอแหลหนังสือ "ความจริงไม่มีสี" ของนายอภิสิทธิ์ เมื่อเจอแต่ภาพตัดต่อ

พึ่ง อ่านหนังสือ "ความจริงไม่มีสี" ของ คุณอภิสิทธิ์ คร่าวๆ เห็นหลายจุดที่มีการบิดเบือน จะด้วยความจงใจหรือรู้เท่าไม่ถึงกาลไม่รู้ แต่เห็นว่าหนังสือเล่มนี้ขายดีทีเดียว

ลองเทียบดูนะครับระหว่างความจริงไม่มีสีกับความจริงที่มีสีว่าอันไหนมันน่าเชื่อถือกว่ากัน

ที่มาภาพจริง 2 ภาพ นั้น ดู https://lh4.googleusercontent.com/-z2SIeGoxVV0/TgAHPlItYkI/AAAAAAAAAIM/ZOB4soZOpec/1251293457division15.jpg และ http://www.naewna.com/politic/20158

ปิด ท้ายโพสต์นี้ด้วยวาทะเท่หฺของคุณอภิสิทธิ์เองที่อยู่ปกหลังหนังสือดังกล่าว ว่า "ฟังคนพูดโกหกมากพอแล้ว ขอโอกาสผมพูดความจริงบ้าง" อิอิ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4235131589592&set=a.3882441932571.2155879.1024504690&type=1&theater

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นายกฯ กับชุดสุดเท่ห์ มั้กกๆๆๆๆ

นายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมชมกิจการรถไฟฟ้าความเร็วสูง St Pancras International สหราชอาณาจักร


















































วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"นายกฯยิ่งลักษณ์" ปลาบปลื้มเข้าเฝ้าฯ "พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2"

"นายกฯยิ่งลักษณ์" ปลาบปลื้มเข้าเฝ้าฯ "พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2" 

 The Queen receives the Prime Minister of Thailand, Mrs Yingluck Shinawatra, at Buckingham Palace, 13 November 2012.

 


  สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ พระราชทานวโรกาส ให้นายกรัฐมนตรีของไทย เข้าเฝ้า ส่วนพระองค์ ในวโรกาศทรงครองราชย์ครบ 60 ปี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ว่า พระราชวังบัคกิ้งแฮม แถลงว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ พระราชทานพระราชวโรกาสให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย เข้าเฝ้าฯเป็นการส่วนพระองค์ ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม พระราชวังที่ประทับใจกลางกรุงลอนดอน โดยเสด็จออกมาต้อนรับ ณ ห้องรับรองภายในพระราชวังบัคกิ้งแฮม ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีของไทยได้ถวายพระพรในนามของรัฐบาลไทยและพสกนิกรชาว ไทยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 60 ปีด้วย

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รับขวัญนักโทษ ม.112 ศาลยกฟ้องหลังถูกขัง 14 เดือน (มีคลิป)

รับขวัญนักโทษ ม.112 ศาลยกฟ้องหลังถูกขัง 14 เดือน 

 http://prachatai3.info/journal/2012/11/43618?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter

กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล จัดกิจกรรม “รับขวัญเพื่อนนักโทษ ม.112 กลับสู่เสรี” สุรภักดิ์โปรแกรมเมอร์อดีตจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่ศาลพึ่งตัดสินยกฟ้อง หลังถูกขังระหว่างดำเนินคดีมาถึง 14 เดือน
สุรภักดิ์ ภูไชยแสงและแม่
11 พ.ย.55 เวลา 13.30 น. ที่บริเวณบาทวิถีหน้าศาลอาญา รัชดา กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ประมาณ 150 คน ได้จัดกิจกรรม “รับขวัญเพื่อนนักโทษ ม.112 กลับสู่เสรี” ให้กับนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง วัย 40 ปี โปรแกรมเมอร์ซึ่งเคยตกเป็นจำเลยในความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550มาตรา 3, 14, 17 โดยศาลพิพากษายกฟ้องไป เมื่อวันที่ 31 ต.ค.55 เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตาม ฟ้องหรือไม่ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้งนี้ในระหว่างการดำเนินคดีนายสุรภักดิ์ ถูกควบคุมตัวในเรือนจำโดยไม่ได้รับการประกันตัวเป็นเวลาถึง14 เดือน
สุรภักดิ์ ภูไชยแสง
สุรภักดิ์ ได้กล่าวกับผู้ร่วมกิจกรรมด้วยว่า ถึงแม้ความยุติธรรมนี้จะมาช้าไป แต่ก็ถือว่าได้รับความเป็นธรรมในท้ายที่สุด พร้อมกับยืนยันด้วยว่าคดีนี้ตนเองบริสุทธิ์ตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว แต่กลับถูกเอาไปกักกันไว้โดยไม่ให้สิทธิในการประกันตัว และการถูกนำตัวไปขังในเรือนจำ สิทธิความเป็นพลเมืองก็หายไปด้วย
โปรแกรมเมอร์อดีตจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กล่าวด้วยว่าคดีของตนเองเป็นคดีทางเทคนิค ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ใช้อีเมลอันหนึ่งและใช้อีเมลนั้นไปสร้างเฟซบุ๊กชื่อ หนึ่งและนำเข้าข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ถูกฟ้องถึง 5 กรรม
สุรภักดิ์ เล่าถึงวันที่ถูกจับกุมด้วยว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาชาร์จตนเองที่ห้อง โดยที่ขณะนั้นไม่ทราบว่าใครเป็นใคร และเข้ามาตรวจค้น โดยนำคอมพิวเตอร์ของตนเองไปเครื่องหนึ่งพร้อมกับนำตัวตนเองไปแม้ไม่ใช่ความ ผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่มีเพียงหมายค้น แต่มีการควบคุมตัวไปด้วยและขอหมายจับตามมาอีก ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐาน
เขากล่าวอีกว่า ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้นหลักฐานชิ้นสำคัญคือข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าที่ต้องได้ตรงนี้มาก่อน ไม่ใช่ไปจับใครมาแล้วมาหาหลักฐานภายหลัง เขาเล่าอีกว่าหลังจากส่งเข้าเรือนจำศาลก็นัดพร้อม โดยที่ตนมั่นใจว่าศาลจะปล่อย เพราะตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด สิ่งที่เห็นคือหลักฐานที่ฟ้องกับหลักฐานที่นัดพร้อมหลักฐานไม่ใช่ชุดเดียว กัน

เล่ากระบวนการเตรียมข้อมูลขณะถูกพันธนาการ
สุรภักดิ์ เล่าต่อว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เอามานำสืบครั้งแรกในช่วงตรวสอบหลักฐานนั้น เป็นคุกกี้ (Cookies) โดยเขาอธิบายเสริมว่าประวัติการใช้งานคอมพิวเตอร์มันมีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทแรกที่เป็นหน้าเว็บเพจ เรียกว่า อินเทอร์เน็ต แคช (Internet Cache) อีกตัวหนึ่งที่เป็น text file เรียกว่า คุกกี้โดยยืนยันว่าดูจากหลักฐานแล้วจะเห็นว่ามีการปลอมคุกกี้ ที่สำคัญ ในตอนแรก อินเทอร์เน็ต แคช ยังไม่ได้ถูกใช้เป็นหลักฐาน ผู้พิพากษาได้สอบถามอัยการถึงหลักฐานที่จะระบุว่าจำเลยกระทำความผิด ซึ่งคดีนี้ไม่มีหลักฐานตั้งแต่เริ่มต้น อัยการเพียงอธิบายว่า ถึงวันนำสืบจะนำสืบเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อจะขมวดปมว่าจำเลยกระทำความผิดอย่างไรแต่ตนก็ต้องมานอนรออยู่ในเรือนจำ กว่าจะได้ขึ้นศาลก็ 1 ปีพอดี
หลังจากได้ดูเอกสารเกี่ยวกับการฟ้องในส่วนของอินเทอร์เน็ต คุกกี้ ก็ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็น อินเทอร์เน็ต แคช สำหรับกระบวนการเตรียมหลักฐานขณะอยู่ในเรือนจำนั้น สุรภักดิ์ เล่าว่า ได้ให้น้องๆนักศึกษาที่ไปเยี่ยมทดสอบช่วย เช่น ลองเล่นเฟซบุ๊กแล้วดูว่าจะปรากฏหลักฐานแบบที่เจ้าหน้าที่ใช้ฟ้องตนเองใน เครื่องที่เล่นได้หรือไม่ การทดสอบเหล่านี้ใช้คนประมาณ 10 คน โดยให้แม่เป็นศูนย์กลางในการประสาน ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การเล่นเฟซบุ๊กและใช้ฮอตเมล์ไม่มีการสร้างอินเทอร์เน็ต แคช ในเครื่อง
“ไม่ใช่หลักฐานเท็จ แต่เป็นหลักฐานที่ไม่มีอยู่ในโลก”
โปรแกรมเมอร์อดีตจำเลย อธิบายถึงการเกิดแคชว่าเว็บไซต์ทั่วไป เช่น sanook.com kapook.com pantip.com ฯลฯ จะเป็นเว็บที่มีแคช โดยระบบแคชถูกคิดค้นในบริบทที่อินเตอร์เน็ตยังมีความเร็วต่ำ เป็นทำสำเนา(copy)หน้าเพจใดๆ ที่เราเปิดทำงานเอาไว้ในเครื่องเรา เพื่อให้ครั้งต่อไปเราสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น โดยจะอ่านที่เครื่องเราก่อนแล้วค่อยอัพเดทไปที่เว็บไซต์จริงๆ ภายหลังอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้นแล้วนักพัฒนาโปรแกรมส่วนใหญ่ก็ไม่ใช้ ระบบแคชอีกต่อไป โดยเฉพาะโปรแกรมระดับสูงอย่างHotmail , Facebook , Twitter เพราะการใช้แคชจะทำให้การเข้าถึงเว็บช้าลงกว่าเดิมเพราะต้องอ่านกลับไปกลับ มา แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไฟล์ที่เครื่องของตนทั้งสองไฟล์ เป็นแคช ไฟล์ ที่เป็นประวัติการใช้ Hotmail และ facebook
“หลักฐานที่คุณกระทำมันไม่ใช่หลักฐานเท็จ แต่มันเป็นหลักฐานที่ไม่มีอยู่ในโลก” เขาเล่าถึงคำเบิกความของตนเองในการสืบพยาน พร้อมอธิบายว่าเหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะหลักฐานเท็จนั้นยังต้องมีหลักฐาน จริงเป็นพื้นฐาน แต่ facebookหรือ hotmailนั้นไม่มีกระทั่งร่องรอยการใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอีกว่าหลังจากเขาถูกจับกุม มีรายงานการใช้งานของคอมพิวเตอร์ของเขาที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปแล้วถึง2 ครั้ง ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานก่อนที่จะมีการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
ยกนโยบาย‘privacy’ ของ facebookสู้คดี
เขาระบุข้อต่อสู้ที่สำคัญอีกว่า ในวันสืบพยาน ทนายได้คุยกับผู้เชียวชาญและถ่ายเอกสารคำแนะนำการใช้งาน facebookของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)เจ้าของ facebookว่า facebook มีนโยบายหลักที่จะไม่ยอมให้เกิดแคช เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
เขาเห็นว่า นี่เป็นประเด็นทางเทคนิคที่เป็นเรื่องใหญ่ แต่ศาลไม่ได้ระบุในคำพิพากษา
สุดท้าย สุรภักดิ์ กล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมกิจกรรมและร่วมรณรงค์เคลื่อนไหวเกี่ยวกับนักโทษ ม.112 และกล่าวด้วยว่า คดีนี้ถ้าไม่มีน้องๆนักศึกษาและมวลชนให้ความช่วยเหลือตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ในการสู้คดีโดยมีแม่เป็นศูนย์กลางการประสานงาน แต่มีแม่เพียงคนเดียวแม่ก็ทำงานไม่ได้ ที่สำคัญ แม่ก็มีกำลังใจอยู่ได้เพราะมีมวลชนคอยดูแล
จรัล ดิษฐาอภิชัยย้ำอย่าลืมและอย่าให้อภัย
นอกจากนี้ จรัล ดิษฐาอภิชัย ที่ปรึกษานายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลรองนายกรัฐมนตรี และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มาร่วมกิจกรรมพร้อมกับกล่าวถึง กิจกรรมนี้ว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเป็นพิธีที่ประชาชนจัดขึ้น เพื่อเรียกขวัญให้กำลังใจให้กับสุรภักดิ์ นอกจากนี้ยังกล่าวฝากกับสุรภักดิ์ด้วยว่า 14 เดือนที่ถูกจองจำนั้น อย่าลืมและอย่าให้อภัย และขอให้ยืนหยัดร่วมกับผู้ที่รักความยุติธรรมและประชาธิปไตยต่อไป
จิตรา คชเดช เล่าถึงแม่ของสุรภักดิ์
จิตรา คชเดช นักสหภาพแรงงาน ผู้เคยร่วมกิจกรรมรณรงค์สิทธิการประกันตัวของนักโทษ ม.112 กล่าวถึงแม่ของสุรภักดิ์ว่า เป็นแม่ที่ประเสริฐมาก เราจะเห็นแม่แอบยืนร้องไห้อยู่หน้าศาล และไปทุกที่เพื่อเรียกร้องสิทธิของลูกและนักโทษคนอื่นๆด้วย อย่างไม่ท้อถอย อายุมากก็ยังมาอดอาหารเรียกร้องสิทธิการประกันตัวเพื่อลูก สิ่งที่ประทับใจมากๆ ก็คือแม่ของสุรภักดิ์เคยพูดว่า “ต่อให้ฉันไปกินขี้เขาฉันก็จะกิน ขอให้ปล่อยลูกฉันเถอะ”
นอกจากน้าภายในงานกลุ่มเสื้อแดง 15 เขตธนบุรี ยังได้นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่าย พร้อมทั้งมีโครงการทำบริเวณนี้เป็นถนนคนเดินเพื่อจำหน่ายสินค้าราคาถูก รวมทั้งการร่วมเล่าประสบการณ์ ความคืบหน้ากรณีการเข้าไปขุดศพไร้ญาติในสุสาน จ.ระยองที่สงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อ แดงในปี 52 และ 53 อีกด้วย โดยมีกลุ่มเสื้อแดงจากจังหวัดชลบุรีติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

ภาพบรรยากาศกิจกรรม
สุชาติ นาคบางไทรอดีตนักโทษ ม.112 กล่าวรับขวัญ


twitter

ห้องแชทKonthaiuk