PEACE TV LIVE

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โฆษกรัฐบาลแถลง 23 เดือน"ยิ่งลักษณ์"เดินทางต่างประเทศ 42 ครั้ง ขยายสัมพันธ์การค้าการลงทุน ระบุไทยได้รับการยอมรับในเวทีต่างประเทศ


 โฆษกรัฐบาลแถลง 23 เดือน"ยิ่งลักษณ์"เดินทางต่างประเทศ 42 ครั้ง ขยายสัมพันธ์การค้าการลงทุน ระบุไทยได้รับการยอมรับในเวทีต่างประเทศ
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 - สิงหาคม 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเยือนต่างประเทศทั้งหมด 42 ครั้ง โดยเป็นการเดินทางเยือนประเทศในกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศ เยือนอย่างเป็นทางการ 26 ประเทศ และเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศ 19 การประชุม
ทั้งนี้การเดินทางเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีนั้น ถ้าเป็นการเดินทางในอาเซียน ถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ประเทศสมาชิกต้องแลกเปลี่ยนการเยือนรวมถึงแนะนำตัวหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกันการเดินทางไปประเทศต่าง ๆ ยังเป็นการเปิดความสัมพันธ์ เปิดโอกาสความร่วมมือ ตลาดการค้า การลงทุน รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับเศรษฐกิจไทยอีกด้วย เช่น ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่แสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยเพิ่มสูงขึ้น การค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
"สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ที่รายงานว่าในปี 2555 นายกรัฐมนตรีร่วมในกิจกรรมโรดโชว์ในประเทศที่เยือน สามารถชักชวนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ถึง 31 โครงการ มูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนกว่า 137,770 ล้านบาท โดยนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ ระบุว่า การที่นายกฯเดินทางไปแนะนำประเทศไทยในต่างประเทศ เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ว่าไทยเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เป็นการแสวงหาโอกาสใหม่ให้กับประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี"นายธีรัตถ์ กล่าว
นายธีรัตถ์ กล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี จะมีการนำนักธุรกิจไทยในหลากหลายสาขา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอื่น ๆ อีกมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศต่อภาคเอกชนของไทย รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้พบกับคู่ค้าใหม่ ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มผลผลิตให้กับห่วงโซ่การผลิตในประเทศได้เป็นอย่างดี เช่น การส่งออกผักและผลไม้ไปตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น การร่วมก่อสร้างสาธารณูปโภคในต่างประเทศของภาคเอกชนไทย เป็นต้น
"การเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมถึง 19 การประชุมในรอบเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ไทยได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อทิศทางการบริหารประเทศของรัฐบาล และความเชื่อมั่นต่อศักยภาพและโอกาสของประเทศไทย เช่นในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่นายกรัฐมนตรีผลักดันให้ทุกประเทศยึดการเติบโตและพัฒนาไปด้วยกันและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รวมถึงการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง ที่ได้แสดงบทบาทให้ทุกประเทศมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างกันอีกด้วย"นายธีรัตถ์กล่าว
นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ธุรกิจไทยต้องการตลาดใหม่ ดังนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปหลายประเทศเพื่อช่วยแนะนำนักธุรกิจไทยให้กับต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางประเทศที่น้อยคนจะรู้จักแต่เป็นประเทศที่มีศักยภาพ ช่วยการค้า การส่งออกของไทยได้เป็นอย่างดี
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานอาวุโสหอการค้าไทย กล่าวว่าการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีที่พานักธุรกิจไปด้วยทำให้นักธุรกิจสามารถติดต่อกับหน่วยงานด้านการค้าของบางประเทศที่ภาคธุรกิจไม่สามารถติดต่อได้ด้วยตนเอง นับเป็นการเปิดประตูการค้าใหม่ๆ โดยการเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้งไม่ได้เป็นการท่องเที่ยว เพราะกำหนดการแน่นมากทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้มีโอกาสเจรจาการค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การไปเยือนต่างประเทศช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย
 





วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ภาพมุมสูงม๊อบสวนยาง(มีคลิป)



ด่วน!!! ป๋าเปรมเข้าโรงพยาบาล เพราะมีอาการปวดท้อง

จาก เฟสบุ๊คส่วนตัวของคุณ

Get well soon ค่ะป๋า

ตอนนี้ทั้งลูกป๋าและ กองทัพบก ปิดข่าวเงียบ หลัง ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธาน องคมนตรีและรัฐบุรุษ ต้องไปนอน รพ.พระมงกุฎฯ เมื่อเย็นวันพุธที่ 28 สค.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดอาการปวดท้อง โดยแพทย์ได้ให้นอนเพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด และผลการตรวจสอบในวันนี้ แพทย์สงสัยว่า ท่านอาจมีปัญหาผิดปกติบางอย่างที่ลำไส้ จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด และทำการรักษา ที่อาคารสมเด็จย่า ชั้น 9 รพ.พระมงกุฎฯ ทั้งนี้ พล.อ.เปรม เพิ่งมีอายุครบ 94 ปี ในวันเกิด 26 สค.ที่ผ่านมานี่เอง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ได้นำปลัดกลาโหม ผบ.สส. ผบ.ทบ.ผบ.ทร.และผบ.ทอ. เข้าอวยพรวันเกิดมาแล้ว.....ปกติ พล.อ.เปรม เป็นคนที่ดูแลสุขภาพร่างกายอย่างดี ไม่ทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ทานแต่ปลา ไม่ทานอาหารปิ้งหรือทอด ย่าง จะไม่นอนดึก และผ่อนคลาย ด้วยการปล่อยวาง และใช้เวลาว่างในการแต่งเพลง ร้องเพลง และเล่นเปียโน โดย พล.อ.เปรม เพิ่งขึ้นเวที เดี่ยวเปียโน พร้อมร้องเพลง ในงานคอนเสิร์ตการกุศลดุริยางค์ทบ. ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ เมื่อ ๘ สค.ที่ผ่านมานี่เอง.....ใจหาย เพราะก่อนวันเกิด วาส เพิ่งขออนุญาตอวยพร ขอให้ป๋าแข็งแรง อายุยืน ถึง 100 ปี เลย ป๋ายิ้มให้ ก่อนบอกว่า ขอไม่เปิดบ้านให้อวยพรวันเกิดปีนี้ เพราะ คนน้อย และอยากเป็นส่วนตัว....Get well soon ค่ะป๋า ผู้ต้องเป็นอมตะ

 https://www.facebook.com/photo.php?fbid=575708432487619&set=a.117614454963688.20985.100001454030105&type=1&theater

คลิป รายการนายแน่มาก วันที่ 28 สิงหาคม 2556 ดำเนินรายการโดย คุณคฑาวุธ และ ดีเจหนุ่มลับแล

รายการนายแน่มาก วันที่ 28 สิงหาคม 2556
ดำเนินรายการโดย คุณคฑาวุธ และ ดีเจหนุ่มลับแล
เวปฅนไท พิทักษ์ประชาธิปไตย http://www.konthais.org

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปปช.ฟันวินัย-อาญา'มนตรี'คดีปรส.

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีกล่าวหานายอมเรนศ ศิลาอ่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถานบันทางการเงิน (ปรส.) กับพวก ว่าการทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ขายสินทรัพย์กลุ่มสินเชื่อพาณิชย์ และสินเชื่ออื่นตามสัญญาขายสำหรับการจำหน่ายเลขที่ FRA 07 กลุ่มสินทรัพย์ COS-03 และ COS -9 ให้กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 โดยมิชอบ
นายกล้านรงค์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฎว่านายมนตรี เจนวิทย์การ ในฐานะเลขาธิการปรส. ได้มีหนังสือปรส. FAR.ARO 4845/1999 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2542 ขยายกำหนดระยะเวลาให้บริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะการประมูล แจ้งรายชื่อให้ผู้อื่นลงนาม ในสัญญาขายมาตรฐานแทน โดยไม่มีการนำเสนอคณะกรรมการปรสง พิจารณา และไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการปรส. เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขายสินทรัพย์หลักของสถาบันการเงินที่ไม่อาจแก้ไขหรือฟื้อฟูฐานะหรือการดำเนินงานได้ จำนวน 56 บริษัท นอกจากนี้ยังยินยอมให้กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 เป็นผู้รับโอนสิทธิจากบริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ทั้งที่ทราบว่าบริษัท เงินทุนเกียนตินาคิ จำกัด (มหาชน) แจ้งรายชื่อกองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 เป็นผู้ทำสัญญาแทนเกินกำหนดเวลา 5 วัน ทำการนับจากวันประมูล
และทราบว่าในวันที่แจ้งรายชื่อผู้ลงนามในสัญญาขายมาตรฐานแทนในวันที่ 23 พ.ย. 42 บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) มิได้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งกองทุน และจดหมายการอนุมัติจัดตั้งกองทุนจาด กลต. เป็นหลักฐานประกอบด้วย ตามที่กำหนดไว้ในข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ ข้อ 7
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. จึงมีมติเห็นชอบว่าการกระทำดังกล่าวของนายมนตรี มีมูลเป็นความผิดทางวินัย ฐานไม่ตั้งใจปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และแบบแผนของปรส. และไม่ปฏิบัติหน้าที่การทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อาศัยอำนาจหน้าที่การงานของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม หาประโยชน์ให้แก้ตนเองหรือผู้อื่น ตามข้อบังคับปรส. ว่าด้วยการพนักงานพ.ศ. 2540 หมวด 4 ข้อ 17 และข้อ 23 และมีมุลความผิดทางอาญา ฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดควาเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11

โฆษกรัฐบาลยืนยันไม่มีเรื่องงบประมาณ ค่าอาหารวันละ2แสนบาทต่อวันของ ครม.




เรื่องอาหาร 2 แสนบาทของ ครม.เห็นเป็นข้อความแชร์ต่อๆ กันผ่านFacebook ซึ่งย้ำไปแล้วว่าไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ ครม.ก็ไม่มีอาหารทานกันแบบในรูป


 https://twitter.com/teeratr

ตามที่เพจสายตรงจากสนามได้โพสต์ลง เฟสบุ๊คว่า 

ชุดนี้ มาดู!! สลน.จ่อจัดตั้ง "งบรับรอง" สำหรับ"ค่าอาหารเช้า-กลางวัน" สำหรับนายกปู-พร้อมคณะ ตั้งงบไว้ถึง 2 แสนบาทต่อวัน เฉลี่ยหัวละ 4,237 บาทต่อวัน ?? / ทีนิวส์

วันนี้ ( 27 ส.ค.) กองพิธีการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้จัดตั้งงบเบิกจ่ายเป็น "งบรับรอง" สำหรับ"ค่าอาหารเช้า-กลางวัน" ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตั้งงบไว้วันละ 211,850 บาท


งบนี้เป็นค่าอาหาร "เช้า-กลางวัน" ของนายกรัฐมนตรีและ"ทีมที่ปรึกษา" รวม 50 คน ตกหัวละ 4,237 บาทต่อวัน

สำหรับเมนูอาหาร ขอนำมา"เรียกน้ำลาย"กันนะครับ โดย"มื้อเช้า" เป็น"อาหารหรู" เช่น กุ้งห่มสไบ, ต้มยำกุ้งมังกร, ปลาหิมะทอดกับซอสพริกไทยสด, หน่อไม้ฝรั่งผัดหอยเชลล์, ผัดกะเพราเป็ดกรอบ ตบท้ายด้วยของหวานและผลไม้ หรือ ข้าวเหนียวมะม่วง ส่วน "มื้อกลางวัน" ระบุว่า(อาจจะ)ไว้ต้อนรับแขกจึงออกสไตล์"กึ่งยุโรป" เช่น ปูนิ่มเสิร์ฟกับสลัดเบอร์รี, หอยเชลล์ห่อปลาแซลมอนเสิร์ฟกับไข่ปลาคาร์เวีย, ซุปใสใส่เกี้ยวตับบด, เนื้อสันในเสริฟกับตับห่านและซอสไวน์แดง ตบท้ายของหวานมื้อกลางวันคือ ช็อกโกแลตมูสไส้เสาวรส เสิร์ฟกับไอศกรีมกะทิ, กาแฟหรือชา เป็นต้น รายการอาหารนี้ หน่วยงานระบุว่า รายการอาหารจะ "สลับสับเปลี่ยน" ทุกวัน

 https://www.facebook.com/SaiTrongPhakSanam

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เสื้อแดง กลุ่มกวป.เจ็บระนาว ถูกเด็กอาชีวะรุมถล่มยับ ขณะผ่านถนนหน้าสวนลุม












ป้าๆๆบอกว่า ไอ้เสื้อช้อบ สีออกเลือดหมูๆๆ พวกนี้ แสบสุด




เมื่อวันที่ 25 ส.ค. กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) พร้อมด้วยมวลชน 50 คน เดินทางเข้าแจ้งความ ร.ต.ท.เลิศชาย สำนัก ร้อยเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มอาชีวะที่ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี ในข้อหาทำร้ายร่างกายและสูญเสียทรัพย์สิน หลังจากถูกกลุ่มนักเรียนดังกล่าวบุกเข้ามาทำร้ายขณะเดินทางโดยสารด้วยรถยนต์ผ่านถนนพระราม 4  พร้อมโชว์ให้เห็นถึงสภาพความเสียหายของรถยนต์ รวมทั้งบาดแผลตามร่างกายของผู้บาดเจ็บเป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม นางบุปผา สิริผันแก้ว อายุ 68 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ขณะที่กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมเสร็จจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะกำลังเดินทางกลับผ่านเส้นทางพระราม 4 จนมาถึงด้านหน้าสวนลุมพินี ช่วงที่รถติดไฟแดง มีกลุ่มอาชีวะ 50-70 คน วิ่งเข้ามารุมทำร้ายกลุ่มตนและใช้ก้อนหิน ขวดโซดา เศษแก้ว ขวาน  ไม้พอง บุกเข้ามาทุบตีภายในรถจนบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ก่อนทั้งหมดจะหนีไป
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณด้านหน้าสวนลุมพินี ถนนพระราม 4 แล้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีผู้ใดทำร้ายร่างกาย จากนั้นจะให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตบริเวณใกล้เคียง พบว่ามีกลุ่มนักเรียนอาชีวะจากหลายสถาบัน สวมเสื้อสถาบัน โพกศีรษะและพันผ้าพันคอสีเหลือง เดินขวักไขว่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการปลุกระดมให้กลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณด้วย.

โจ๋ม็อบสวนยางนครศรีฯเมาทะเลาะฟันกันสาหัส1

โจ๋ม็อบสวนยางนครศรีฯเมาทะเลาะฟันกันสาหัส1

INN News
INN Newsสนับสนุนเนื้อหา
Facebook Share Button
กลุ่มวัยรุ่นนครศรีฯ ร่วมชุมนุมประท้วงราคายาง เมาทะเลาะกันเอง คว้ามีดฟันข้อมือเพื่อนหวิดขาดเลือดอาบ นำส่ง ร.พ.แล้ว
โจ๋ม็อบสวนยางนครศรีฯเมาทะเลาะฟันกันสาหัส1
กลุ่มวัยรุ่นนครศรีฯ ร่วมชุมนุมประท้วงราคายาง เมาทะเลาะเอง คว้ามีดฟันข้อมือเพื่อนหวิดขาดเลือดอาบ นำส่ง ร.พ.แล้ว

กลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมชุมนุมประท้วงราคายาง ที่บ้านควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มีอาการเมาอาละวาด และเกิดทะเลาะกันเอง จนถึงขั้นใช้มีดสปาต้าฟันกัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อ นายเอกราช เพ็งจันทร์ อายุ 20 ปี บ้านอยู่ ต.ควนหนองหงษ์ ถูกฟันข้อมือด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรณ์ ข้อมือหวิดขาด เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำส่งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ แต่เนื่องจากอาการสาหัส ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์จึงได้ส่งต่อ โรงพยาบาลมหาราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำการต่อข้อมือให้กับ นายเอกราช ผู้บาดเจ็บรายนี้ต่อไป

twitter

ห้องแชทKonthaiuk