ประกาศนิติราษฎร์ ฉบับที่ ๔๑ (วรเจตน์ ภาคีรัตน์)
06 January 2013
ภารกิจคณะนิติราษฎร์ใน พ.ศ. ๒๕๕๖
วรเจตน์ ภาคีรัตน์
โดยที่มีผู้สอบถามถึงกิจกรรมทางวิชาการของคณะนิติราษฎร์ :
นิติศาสตร์เพื่อราษฎร ที่จะดำเนินการต่อไปใน พ.ศ.๒๕๕๖
ตลอดจนสอบถามถึงความคืบหน้าของการรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๑๑๒
และการดำเนินการตามแนวทางการตรากฎหมายเพื่อขจัดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน
สังคมอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายภายหลังจากการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙
กันยายน ๒๕๔๙ ตามที่ได้เคยประกาศไว้ใน
ประกาศนิติราษฎร์ฉบับที่ ๓๔ (๒๕
เมษายน ๒๕๕๕) ในโอกาสขึ้นปีใหม่พุทธศักราช ๒๕๕๖ นี้
คณะนิติราษฎร์ขอชี้แจงถึงภารกิจและกิจกรรมที่จะดำเนินการต่อไป ดังนี้
๑. การรณรงค์และรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอ
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์
โดยคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ (ครก.๑๑๒) นั้น
ได้ผ่านพ้นจากขั้นตอนการรณรงค์รวบรมรายชื่อประชาชนไปสู่การเสนอร่างพระราช
บัญญัติดังกล่าวไปยังประธานรัฐสภาแล้ว เมื่อกลางปี ๒๕๕๕
ต่อมาในราวเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ประธานรัฐสภา (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์)
ได้ปฏิเสธไม่บรรจุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม
โดยอ้างว่าร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
ไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติตามที่กำหนดในหมวด ๓
(สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย) และหมวด ๕ (แนวนโยบายแห่งรัฐ)
ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่กรณีเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
๑๒๒ ซึ่งกำหนดโทษในทางอาญานั้น
เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในร่างกายและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ของบุคคลซึ่งเป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ
การปฏิเสธไม่บรรจุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม
จึงเป็นการปฏิเสธที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล หลังจากทราบการปฏิเสธแล้ว ครก.๑๑๒
(ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่ายรวมทั้งคณะนิติราษฎร์)
ได้พยายามประสานเพื่อเสนอความเห็นให้ประธานรัฐสภาทบทวนการวินิจฉัย
แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ นี้ ครก.๑๑๒ จะได้โต้แย้งคำสั่งของประธานรัฐสภา
(นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) เป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อให้มีการทบทวนคำสั่งดังกล่าว
หลังจากนั้นจะดำเนินการตามช่องทางในทางกฎหมายต่อไปจนสุดหนทาง
ในระหว่างนี้
หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ายี่สิบคนหรือคณะรัฐมนตรีเห็นความ
สำคัญของปัญหาดังกล่าว
อันเป็นปัญหาที่นานาชาติตลอดจนองค์การระหว่างประเทศให้ความสนใจ
และประสงค์จะปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
ให้ได้ในระดับที่นานาอารยประเทศพอที่จะยอมรับนับถือได้
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือคณะรัฐมนตรีอาจพิจารณาเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไข
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์หรือข้อเสนอของคณะกรรมการบางคณะที่รัฐบาลได้ตั้ง
ขึ้น (เช่น คอป.) เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามวิถีทางประชาธิปไตยก็ได้
การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการมีคำ
สั่งของ ประธานรัฐสภา (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์)
ที่ไม่บรรจุร่างกฎหมายที่ประชาชนร่วมกันเข้าชื่อโดยถูกต้องทุกประการตามหลัก
เกณฑ์ของกฎหมายเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาได้อีกทางหนึ่ง
ในส่วนของประชาชนที่ร่วมลงชื่อ
ตลอดจนเครือข่ายกลุ่มกิจกรรมต่างๆที่เห็นว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒
มีปัญหาทั้งในแง่อุดมการณ์เบื้องหลังตัวบท ปัญหาในระดับตัวบท
และปัญหาในการบังคับใช้ หากจะจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆต่อไป
เท่าที่มีกำลังจะทำได้ เพื่อขยายแนวความคิดให้แพร่ไปในหมู่ประชาชนในวงกว้าง
ให้เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง
พ้นจากการบิดเบือนให้ร้ายของสื่อมวลชน
องค์กรและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่แสวงหาประโยชน์จากการดำรงอยู่ของบท
บัญญัติมาตรานี้ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแก้ไขบทบัญญัติมาตรานี้ในอนาคต
๒.
สำหรับการดำเนินการตามแนวทางการตรากฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมและการขจัดความขัด
แย้งที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายภายหลังจากการแย่งชิงอำนาจ
รัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ นั้น ขณะนี้คณะนิติราษฎร์ได้ยก
ร่างรัฐธรรมนูญหมวดว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้ง เสร็จสิ้นแล้ว และได้ประกาศเผยแพร่ต่อสาธารณชนพร้อมกับประกาศนิติราษฎร์ฉบับนี้ เนื้อหาสาระหลักของร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นไปตาม
ประกาศนิติราษฎร์ฉบับที่ ๓๔
ทั้งนี้โดยคณะนิติราษฎร์ได้กำหนดรายละเอียดของเนื้อหาบางประการเพิ่มเติม
อนึ่ง กฎหมายนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้งตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์
คณะนิติราษฎร์เลือกที่จะเสนอในรูปของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
ไม่ใช่ร่างพระราชบัญญัติ
เพื่อป้องกันปัญหากรณีร่างพระราชบัญญัติขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ
โดยในร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอนี้ไม่มีการนิรโทษกรรมให้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่ของ
รัฐที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงตลอดจนการสลายการชุมนุมทุก
เหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา
ให้มีการนิรโทษกรรมแก่ผู้เข้าร่วมการประท้วงและชุมนุมทางการเมืองตาม
เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งนี้เท่าที่ไม่ขัดกับพันธกรณีระหว่างประเทศ
ให้มีคณะกรรมการขจัดความขัดแย้งจำนวน ๕ คน
ซึ่งประธานรัฐสภาแต่งตั้งจากบุคคลที่ได้รับเลือกจากองค์กรต่างๆตามที่กำหนด
ไว้ในรัฐธรรมนูญ
โดยกำหนดให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการขจัดความขัดแย้งมีผลผูกพันองค์กรของรัฐ
ทุกองค์กร
และไม่อาจเป็นวัตถุแห่งการพิจารณาขององค์กรตุลาการหรือองค์กรอื่นใด
นอกจากนี้คณะนิติราษฎร์ยังกำหนดให้รัฐสภาเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเด็ดขาดใน
การตีความบทบัญญัติในหมวดว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้งด้วย
ร่างรัฐธรรมนูญหมวดว่าด้วยนิรโทษกรรมและการขจัดความขัดแย้งตามข้อเสนอของคณะ
นิติราษฎร์นี้ เมื่อได้เผยแพร่ต่อสาธารณะแล้ว
ย่อมถือเป็นสมบัติของสาธารณะที่อาจจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์
เสนอแนะตลอดจนปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
คณะนิติราษฎร์ไม่สงวนสิทธิที่กลุ่มบุคคลหรือคณะบุคคลใดจะนำร่างรัฐธรรมนูญ
ดังกล่าวไปรณรงค์เคลื่อนไหวตลอดจนผลักดันให้เกิดผลเป็นตัวบทกฎหมายที่มีผล
ใช้บังคับได้จริงในบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป
๓. ในส่วนของกิจกรรมทางวิชาการของคณะนิติราษฎร์นั้น
แม้ว่าคณะนิติราษฎร์ซึ่งประกอบไปด้วยอาจารย์ประจำของคณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวน ๗ คน
จะไม่เคยได้รับค่าตอบแทนจากบุคคลใดในการดำเนินกิจกรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
และทั้งๆที่คณะนิติราษฎร์หวังเพียงการแสดงออกซึ่งความรู้ในทางวิชาการที่ได้
ร่ำเรียนมาเสนอประเด็นต่างๆเข้าสู่พื้นที่สาธารณะอย่างเปิดเผย
และตรงไปตรงมา (นอกเหนือไปจากงานวิชาการประจำไม่ว่าจะเป็นการสอน การวิจัย
การผลิตตำราตลอดจนบทความ) แต่นับแต่กลางปี พ.ศ.๒๕๕๕ เป็นต้นมา
คณะนิติราษฎร์ประสบกับอุปสรรคในการขอใช้สถานที่ของคณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตลอดจนคณะบางคณะในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มากขึ้นเป็นลำดับ
จนไม่อาจจัดกิจกรรมทางวิชาการตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างต่อเนื่องได้
อย่างไรก็ตาม ใน พ.ศ. ๒๕๕๖ นี้
คณะนิติราษฎร์ยังคงตั้งใจจะจัดกิจกรรมทางวิชาการต่อไปเท่าที่กำลังและเหตุ
ปัจจัยต่างๆจะอำนวย โดยจะพยายามฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปให้ได้
กิจกรรมหลักที่คณะนิติราษฎร์จะดำเนินการต่อไปนั้น ก็คือ
การศึกษาและยกร่างรัฐธรรมนูญต้นแบบที่มีการจัดดุลอำนาจของสถาบันการเมืองและ
องค์กรทางรัฐธรรมนูญโดยถูกต้องตามหลักประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ
การประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ตลอดจนการลบล้างผลพวงรัฐประหาร
นอกจากนี้คณะนิติราษฎร์จะพยายามจัดทำเอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับการบังคับใช้
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
ตลอดจนการวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งคำวินิจฉัยกลางและคำ
วินิจฉัยส่วนตนเกี่ยวกับการวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของประมวลกฎหมาย
อาญา มาตรา ๑๑๒ ออกเผยแพร่ต่อสาธารณะ
และหากมีความจำเป็นที่จะต้องแสดงทัศนะทางวิชาการต่อการบังคับใช้กฎหมายของ
องค์กรของรัฐในสถานการณ์ต่างๆ
คณะนิติราษฎร์ก็จะพยายามหาช่องทางในการสื่อสารต่อสาธารณะต่อไป
คณะนิติราษฎร์ขอเรียนให้สาธารณชนทราบว่า
จนถึงขณะนี้คณะนิติราษฎร์ยังไม่ประสงค์จะรับการบริจาคหรือการสนับสนุนทางทุน
ทรัพย์จากบุคคลใด
เนื่องจากการดำเนินกิจกรรมทางวิชาการเท่าที่ผ่านมาเป็นกิจกรรมเล็กๆที่ยัง
อยู่ในกำลังซึ่งสมาชิกคณะนิติราษฎร์จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆเองได้
ขอให้ประชาชนทั้งหลายอย่าได้หลงเชื่อการแอบอ้างชื่อคณะนิติราษฎร์เพื่อขอรับ
เงินบริจาคสนับสนุนการทำกิจกรรมของคณะนิติราษฎร์
คณะนิติราษฎร์มุ่งหวังให้การดำเนินกิจกรรมทางวิชาการที่กระทำนั้น
เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ท้าทายต่อการบิดเบือนให้ร้ายจากสื่อมวลชน
กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอดจนนักวิชาการบางส่วนที่มีจิตเป็นอกุศล
หากเมื่อใดคณะนิติราษฎร์พิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วย
เหลือทางการเงินจากสาธารณะ คณะนิติราษฎร์จะประกาศให้ทราบอย่างเปิดเผย
และจะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปอย่างโปร่งใส
ความมุ่งหมายของคณะนิติราษฎร์ในการดำเนินกิจกรรมทางวิชาการซึ่งในบางเรื่อง
มีอิทธิพลส่งผลกระทบในทางการเมืองอยู่บ้างนั้น
ก็เพื่อทำให้วิชานิติศาสตร์อันเป็นวิชาที่สมาชิกคณะนิติราษฎร์ร่ำเรียนมา
เป็น “นิติศาสตร์เพื่อราษฎร”
และด้วยความหวังที่ว่าคณะนิติราษฎร์จะเป็นฟันเฟืองเล็กๆตัวหนึ่งในการผลัก
ดันให้ประเทศของเราเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นนิติรัฐอย่างแท้จริง
๗ มกราคม ๒๕๕๖.
http://www.enlightened-jurists.com/blog/76