PEACE TV LIVE

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โค่น มอร์ซี-ทักษิณ นำสู่ระบอบอัตตาธิปไตย

ชี้โค่น มอร์ซี-ทักษิณ นำสู่ระบอบอัตตาธิปไตย

Home> News> Global> ชี้โค่น มอร์ซี-ทักษิณ นำสู่ระบอบอัตตาธิปไตย

ชี้โค่น มอร์ซี-ทักษิณ นำสู่ระบอบอัตตาธิปไตย


นักวิชาการชาวดัทช์ชี้จุดเหมือนมอร์ซี-ทักษิณ เป็นนักประชาธิปไตยไม่เสรี แต่การล้มล้างเจตจำนงของประชาชนด้วยการรัฐประหารในอียิปต์และไทย ส่อนำสู่ระบอบอัตตาธิปไตย ปกครองโดยผู้เป็นใหญ่

เอียน บูรูมา อาจารย์สอนวิชาประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยบาร์ดคอลเลจ ในนิวยอร์ก ได้ตีพิมพ์บทความในหนังสือพิมพ์ The Globe and Mail ในแคนาดา [http://m.theglobeandmail.com/commentary/give-democracy-a-chance-in-egypt/article13724965/?service=mobile] เปรียบเทียบปัญหาการเมืองของอียิปต์กับประเทศไทย

บทความชื่อ "Give democracy a chance in Egypt" ของนักวิชาการชาวเนเธอร์แลนด์ผู้นี้ ชี้ว่า อียิปต์กับไทยมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ พวกผู้มีการศึกษาที่ถือตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตยได้หันไปเชียร์รัฐประหาร โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แม้คนพวกนี้เคยต่อต้านระบอบกดขี่ของทหาร แต่ในไทยเมื่อปี 2549 และในอียิปต์เมื่อเดือนที่แล้ว คนเหล่านี้ต่างยินดีที่ผู้นำประเทศถูกขับด้วยการใช้กำลัง

สาเหตุก็คือ ผู้นำจากการเลือกตั้งในประเทศทั้งสอง คือ ทักษิณ ชินวัตร ในประเทศไทย และโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ในอียิปต์ ต่างเป็นนักประชาธิปไตยที่ไม่เสรี คนทั้งสองมองว่าชัยชนะในการเลือกตั้งของตนเป็นการได้รับอาณัติให้บิดเบือนบรรทัดฐานต่างๆในรัฐธรรมนูญ และปกครองอย่างนักอัตตาธิปไตย

สถานการณ์ภายหลังการรัฐประหารในไทยและอียิปต์ ต่างตามมาด้วยการนองเลือด ในประเทศไทยจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่บรรดาผู้สนับสนุนทักษิณยังคงได้รับความขมขื่นนานาประการ ความรุนแรงบนท้องถนนอาจปะทะขึ้นได้ตลอดเวลา

ในอียิปต์ ผู้นำรัฐประหาร พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี ได้ประกาศที่จะบดขยี้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมอย่างรุนแรงที่สุด มีการปราบปรามผู้สนับสนุนมอร์ซีที่ปักหลักชุมนุมโดยสงบ มีผู้เสียชีวิตหลายร้อย มีการฟื้นหน่วยตำรวจลับที่เคยเฟื่องฟูในยุคอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ ทั้งไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งขัดหลักเสรีนิยม แม้กระนั้น ชาวอียิปต์จำนวนมาก รวมทั้งพวกนักสิทธิมนุษยชน ก็ยังเห็นดีเห็นงาม นักเรียกร้องประชาธิปไตยชื่อดัง อิสรออ์ อับเดล ฟัตตาห์ ประณามพรรคของมอร์ซีว่าเป็น "แก๊งของผู้ก่อการร้ายที่มีต่างชาติหนุนหลัง"

@  ภาพทางโทรทัศน์ โมฮัมเหม็ด มอร์ซี สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อ 30 มิถุนายน 2555

นักวิชาการผู้นี้บอกว่า การเลือกตั้งที่ส่งมอร์ซีขึ้นสู่อำนาจ ได้มอบสิทธิ์เสียงแก่ประชาชนหลายล้านคนเป็นครั้งแรก จำนวนมากเป็นคนยากจน มีการศึกษาต่ำ และเคร่งศาสนา คนเหล่านี้อาจมีทัศนะไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะในเรื่องบทบาทผู้หญิง เรื่องเพศ และบทบาทของอิสลามในการเมืองการปกครอง แต่การปิดปากพวกเขาด้วยกำลังนั้นรังแต่จะชักนำไปสู่เหตุรุนแรงยิ่งขึ้น

หากไม่เคารพผลการเลือกตั้ง ประชาชนจะหันไปหาวิถีทางอื่นในการเรียกร้องสิทธิ์เสียงของตน การปกครองแบบอัตตาธิปไตยของมอร์ซีอาจบั่นทอนประชาธิปไตย แต่การขับเขาด้วยรัฐประหารเป็นการทำลายประชาธิปไตย

นับเป็นปมคำถามที่มีมาเนิ่นนาน ว่า เราจะเชื่อมช่องว่างระหว่างพวกชนชั้นนำเขตเมืองกับชาวชนบทผู้ยากจนได้อย่างไร วิธีหนึ่งคือ กดปราบพวกคนจนและองค์กรทางศาสนาของพวกเขา อียิปต์เคยทำมาแล้วทั้งโดยผู้นำฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา อีกวิธีคือ ให้โอกาสแก่ประชาธิปไตย

หนทางอีกอย่างหนึ่ง คือ หวนคืนสู่ระบอบอัตตาธิปไตยที่ไม่เสรี การสนับสนุนรัฐประหารโค่นล้มมอร์ซี กำลังจะนำไปสู่ระบอบที่ว่านี้.

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 ส.ค. 56

ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 ส.ค. 56 
รางวัลที่ 1 :  321327 
เลขท้าย3ตัว : 417, 945 , 448, 201 
เลขท้าย2ตัว : 20


ตรวจหวยทุกรางวัล >> http://lottery.kapook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เปิดรายงาน ศปช. "ความจริงเพื่อความยุติธรรม" เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 53


เผยแพร่เมื่อ 21 ส.ค. 2012
เปิดรายงาน ศปช. "ความจริงเพื่อความยุติธรรม" เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 53
วิทยากรประกอบด้วย
พวงทอง ภวัครพันธุ์ : อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกษม เพ็ญภินันท์ อักษรศาสตร์จุฬา
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ รัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง
ขวัญระวี วังอุดม สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล
กฤตยา อาจวนิชกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
ศราวุฒิ ประทุมวช สถาบันหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน
เสาวลักษณ์ โพธิ์งาม นักกฎหมายอิสระ
พะเยาว์ อัคฮาด แม่พยาบาลน้องเกด
ปิยบุตร แสงกนกกุล คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
คารม พลพรกลาง ทนายความ
ดำเนินรายการโดย ยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2555





http://www.flickpeople.com/19may/main/truth/


ตัวเลขนี้ เหล่้านี้มีความหมาย

117,923 คือจำนวนกระสุนที่ใช้ไปในการสลายการชุมนุม
2,120 คือจำนวนกระสุนสำหรับการซุ่มยิง
3,000,000,000 คืองบประมาณที่กองทัพใช้ในการจัดการการชุมนุม
67,000 คือจำนวนกำลังพล(ทหาร)
700,000,000 คืองบประมาณที่ตำรวจใช้ในการจัดการการชุมนุม
25,000 คือจำนวนกำลังพล(ตำรวจ)

94 คือจำนวนผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการสลายการชุมนุม
7 ในผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็น ผู้หญิง
87 ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็น ผู้ชาย
32 คือจำนวนคนที่โดยยิงที่ศรีษ
14 ปี คือ ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด
76 คือพลเรือนที่เสียชีวิต
1,283 คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ

1,857 คือจำนวนผู้ถูกจับกุมระหว่างชุมนุม
1,763 คือจำนวนคดีทั้งหมด ในศาล 56 แห่ง
167 คือจำนวนคดีเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีที่ถูกดำเนินคดี
Liked · Tuesday


ตัวเลขเหล่านี้มีความหมาย

94 คือจำนวนผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการสลายการชุมนุม
7 ในผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็น ผู้หญิง
87 ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็น ผู้ชาย
32 คือจำนวนคนที่โดยยิงที่ศรีษ
14 ปี คือ ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด
76 คือพลเรือนที่เสียชีวิต
1,283 คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ
117,923 คือจำนวนกระสุนที่ใช้ไปในการสลายการชุมนุม
2,120 คือจำนวนกระสุนสำหรับการซุ่มยิง
3,000,000,000 คืองบประมาณที่กองทัพใช้ในการจัดการการชุมนุม
67,000 คือจำนวนกำลังพล(ทหาร)
700,000,000 คืองบประมาณที่ตำรวจใช้ในการจัดการการชุมนุม
25,000 คือจำนวนกำลังพล(ตำรวจ)
1,857 คือจำนวนผู้ถูกจับกุมระหว่างชุมนุม
1,763 คือจำนวนคดีทั้งหมด ในศาล 56 แห่ง
167 คือจำนวนคดีเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีที่ถูกดำเนินคดี

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รายการ นายแน่มาก คฑาวุธ ประจำวัน พุธ ที่ 14 สิงหาคม 2556 ดำเนินรายการโดย หนุ่มลับแล.org


OMG! Oh My Gosh! ระบอบอภิสิทธิ์อนุมัติงบประมาณฟรีจากภาษีประชาชน 600 ล้านให้อานันท์-หมอประเวศ ไปตั้งสำนักงานปฏิรูปประเทศไทย ใช้เวลาการทำงาน 3 ปี

"บรรหาร"เย้ยเห็นชื่อกก.ชาตินี้ปรองดองได้หรือไม่ นายกฯตั้ง 2 ชุดปฏิรูปฯ ควักงบฯ 3 ปี 600 ล้าน

วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 16:23:29 น.
  

ครม.อนุมัติตั้งสนง.ปฏิรูปควักงบฯ 3 ปี รวม 600 ล้าน
นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูป พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่ให้ตั้งสำนักงานปฏิรูป มีคณะกรรมการ 2 คณะ ประกอบด้วยคณะกรรมการปฏิรูป มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ให้ตั้งกรรมการเพิ่มเติมได้ไม่เกิน 25 คน และคณะกรรมการสมัชชา มีนพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน ให้ตั้งกรรมการเพิ่มเติมได้ไม่เกิน 30 คน ให้เวลาในการทำงานต่อเนื่อง 3 ปี ใช้งบประมาณปีละไม่เกิน 200 ล้านบาท เบิกจ่ายผ่าน สช.สำหรับการกำหนดเงินเดือนและค่าตอบแทน กรรมการคณะต่างๆ นายอานันท์และนพ.ประเวศจะเป็นผู้กำหนดภายหลัง ตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่ใช่จะตั้งเท่าไรก็ได้


"มาร์ค"ลั่นไม่แทรกแซง ก.ก.ปฏิรูปฯ คุยร่วมมือกันจนรู้ใจ 
เมื่อเวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินหน้าเรื่องการปฏิรูปประเทศ โดยจะมีคณะกรรมการปฏิรูป  1 ชุดและคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป  1 คณะซึ่งตนจะเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งประธาน 2 คณะ โดยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูป และน.พ.ประเวศ วะสี จะเป็นประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ซึ่งประธานทั้ง 2 คนจะเป็นผู้ไปตั้งคณะกรรมการเอง โดยมีสำนักงาน ซึ่งจะตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานภายในของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขาฯ ซึ่งมีกรอบการทำงาน 3หน้า ปีโดยมีอำนาจที่กว้างขวางพอสมควร ตามเจตนาที่ได้ประกาศเอาไว้ว่าเป็นส่วนสำคัญของแผนเรื่องการปรองดอง 

เมื่อถามว่าคณะกรรมการจะดำเนินการโดยปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าจากโครงสร้างและรเบียบที่ออกไปนั้นจะเห็นได้ชัดมากกว่าการเมืองจะเข้าไปแทรกแซงอย่างแน่นอน แล้วก็มีความเป็นอิสระมากพอสมควรในการทำงานแต่ละส่วน ซึ่งในรายละเอียดหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของประธานคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดจะเป็นผู้ชี้แจงเอง

เมื่อถามว่าผู้ที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการเป็นห่วงว่ารัฐจะไม่นำสิ่งที่คณะกรรมการได้ดำเนินการมาทำอย่างจริงจัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "คำตอบเรื่องนี้มันอยู่ที่การกระทำ  แต่ที่ผ่านมาเรามีการทำงานกับภาคประชาชนและภาคส่วนอื่นๆ หลายครั้งแล้วในรัฐบาลชุดนี้ แม้กระทั่งการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง  จะเห็นได้ว่าในทุกกรณีเราได้มีการดำเนินการจนผมพูดได้ว่ามีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ผมก็ได้ไปร่วมประชุมครั้งสุดท้ายของคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เรื่องมาบตาพุด เป็นบรรยากาศที่ดี แม้ข้อเสนอบางเรื่องยังไม่ผ่านขั้นตอนทั้งหมด แต่ตลอดเวลาการทำงานที่ผ่านมา คนที่เคยกังวลว่าคณะกรรมการ 4 ฝ่ายมีข้อยุติอย่างไรแล้วรัฐบาลจะดำเนินการหรือไม่  มันก็ชัดเจนแล้วว่าเราได้พยายามผลักดันตามอำนาจหน้าที่"

เมื่อถามว่าการปฏิรูปประเทศอาจจะไปกระทบฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มทุนทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตัวอย่างที่ตนยกมาทั้งหมดนั้นแม้จะมีอะไรกระทบก็ตรงไปตรงมา ซึ่งตนยืนยันได้ว่ารัฐบาลสนับสนุนการทำงานเต็มที่

"บรรหาร"เย้ย "กก.ปรองดอง" ชาตินี้ปรองดองได้หรือไม่

นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาชทพ.  กล่าวถึงคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ที่รัฐบาลได้ตั้งขึ้นว่า "ยากจริงเลย เห็นกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเหนื่อย ไม่แน่ใจ ชาตินี้จะปรองดองกันได้หรือเปล่า เพราะความคิดเห็นมันแตกแยกกัน  ชาตินี้ไม่แน่จะปรองดองกันได้หรือเปล่า ตอบไม่ได้" 

เมื่อถามว่าแล้วรัฐบาลจะตั้งขึ้นมาทำไม นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องไปถามรัฐบาล ตั้งขึ้นมาเป็นประโยชน์อะไร ตั้งมาแล้วปรองดองกันได้หรือไม่ ต้องถามรัฐบาลเอง ถามตนไม่ได้  แต่ยากเพราะความคิดเห็นไปคนละทาง ยากที่จะปรองดอง นอกจากยอมเขาหมดปรองดองได้ ถ้าทุกฝ่ายตกลงก็ปรองดองได้ แต่ก็ต้องถูกด่าอีก


พท.หวัง"คณิต"จะรักษาเกียรติภูมิให้สมกับเป็นเชื้อสายพระเจ้าตาก

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรค พท. พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรค พท. ร่วมแถงข่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ตั้งคณะกรรมการตามแผนปรองดอง 3 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ คอป. โดย ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวว่า หวังว่านายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. จะรักษาเกียรติภูมิในการทำหน้าที่ให้สมกับเป็นเชื้อสายของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่เป็นต้นตระกูล ณ นคร

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า เชื่อว่าการตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยนั้น นายอภิสิทธิ์คงจะไม่ได้สอบถามหรือปรึกษาปูชนียบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายพิชัย รัตตกุล และนายถนัด คอมันตร์ มาก่อน เพราะหากนายอภิสิทธิ์ปรึกษาบุคคลทั้งสองคงจะไม่แต่งตั้งนายอานันท์มานั่งในตำแหน่งดังกล่าวอย่างแน่นอน




http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1277803418    

https://www.facebook.com/note.php?note_id=134768589878271&1&index=0

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข้อโต้แย้งผลสรุปของ กสม. โดย นพ.เหวง โตจิราการ (ยาวแต่โดนทุกเม็ด)

ข้อโต้แย้งผลสรุปของ กสม. โดย นพ.เหวง โตจิราการ (ยาวแต่โดนทุกเม็ด)

กระทู้สนทนา
ความเห็นต่อรายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย “กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช.ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19พฤษภาคม 2553” ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 

รายงานฉบับนี้มีเนื้อความสำคัญอยู่ในหัวข้อที่ 4 เมื่อศีกษาดู(หมายถึงอ่านอย่างตั้งใจพินิจพิจารณา) พบว่า มีหัวข้อย่อย 8 หัวข้อ ซึ่งทั้งหมด อธิบายแก้ต่างให้กับรัฐบาลอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ว่ามีความชอบธรรมทุกประการ ตั้งแต่ 

- การประกาศ พรบ.มั่นคง 7 มี.ค. 53 ประกาศพรก.ฉุกเฉินที่มีสถานการณ์ร้ายแรง 7 เมษายน 53 การทำหน้าที่ของทหาร ทั้งปวง ล้วนแต่เป็นการปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ไม่มีการใช้กระสุนจริง หากมีการใช้กระสุนจริงก็เพียงเพื่อป้องกันตัวจากเหตุร้ายแรงที่อาจทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บโดยไม่สามารถใช้วิธีป้องกันอย่างอื่นได้ 

- การชุมนุมของคนเสื้อแดง ไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ยั่วยุปลุกปั่นปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง ภายในหมู่คนเสื้อแดงมีกองกำลังติดอาวุธ มีชายชุดดำ มีอาวุธสงครามร้ายแรง ยิงต่อสู้ทหาร สถานีโทรทัศน์พีทีวีของคนเสื้อแดง ก็ถ่ายทอดภาพและเสียงที่มีการยั่วยุปลุกระดมผู้ชุมนุมให้ก่อความไม่สงบในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง 

- มีการยิง M79 จากบริเวณอนุสาวรีย์ ร.6 ฝั่งคนเสิ้อแดงทำให้มีหญิงเสียชีวิตเมื่อ 22 เมษายน 2553 

- การบุกเข้าไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เพื่อขอตรวจค้นเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมซึ่งเป็นกติกาสากลที่สังคมอารยะพึงยึดถือ 

- มีการตั้งถังแก๊ส5ถังใกล้โรงพยาบาลอาจจะระเบิดมีรัศมีทำลายกว้าง กรณี6ศพวัดปทุมก็มีชายชุดดำวิ่งไปๆมาๆหลบเข้าในวัดปทุมยิงต่อสู้กับทหาร ทำให้ทหารจำเป็นต้องยิงโต้ตอบ

- เรื่องพลเอกร่มเกล้าก็มีเลเซอร์สีเขียวชี้เป้าก่อนที่จะมีระเบิดลง

ยังมีเนื้อหาอีกมากมายครับ ผมคงนำมากล่าวถึงไม่หมด ไม่งั้นก็จะยาวประมาณ 90 หน้าอย่างที่เขาทำ แต่ ที่ผมขอโต้แย้งมีบางประการดังต่อไปนี้

1. กสม.ไม่ได้พูดถึงการคุกคามด้วยกำลังทหารของรัฐบาลอภิสิทธิ์ว่าเป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนของประชาชน เช่นเรื่องการ เอาทหารหลายพันนายพร้อมอาวุธสงคราม รถถัง รถสายพานลำเลียง เข้าไปประจำในวัด 7 วัด โดยรอบ ในโรงเรียนวชิราวุธ ในสนามม้านางเลิ้ง ในช่วงกลางเดือนมีนาคม53 ที่ชุมนุมบริเวณสพานผ่านฟ้า นี่บ่งชัดถึงความต้องการที่จะปราบปรามการชุมนุมด้วยอาวุธ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลเอาทหารจำนวนหลายพันนาย อาวุธหลายพันกระบอก กระสุนหลายหมื่นนัด รถถัง รถสายพานลำเลียงจำนวนหลายสิบคัน มาล้อมการชุมนุมอย่างสงบของประชาชนทำไมครับ นี่กสม.ไม่ได้พูดถึงไม่ได้ประนาม แสดงชัดว่า กสม.เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารมาปิดล้อมและเตรียมที่จะปราบปรามประชาชนด้วยกำลังทหารอาวุธสงคราม ไม่งั้นกสม.หุบปากเงียบทำไมครับ แล้วเมื่อประชาชนไปขอเชิญทหารให้กลับกรมกองที่ตั้งของตนเอง กสม.กลับบอกว่าประชาชนไปกดดันให้ทหารกลับ  ที่สี่แยกราชประสงค์ก็เช่นกัน ในราววันที่ 7-8 เมษา53 รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็เอาทหารหลายพันนายพร้อมอาวุธสงครามครบมือและรถถังรถสายพานลำเลียงหลายสิบคันมาประจำที่สวนลุมพินีประชาชนก็ไปขอให้ทหารกลับกรมกองอย่างสันติวิธี กสม.ก็ไม่ประนามรัฐบาลและไม่ยอมรับว่า คนเสื้อแดงใช้สันติวิธีรับมือกับทหารที่ติดอาวุธสงครามจากศรีษะจรดเท้า

2. เรื่องบุกเข้ารัฐสภา นี่ก็ทำไมไม่เคารพความจริง ว่าเกิดจากมีคนถืออาวุธสงครามในสภา ต่อมาก็มีภาพ คนสนิทนายสุเทพเทือกสุบรรณถือปืนโดยใช้เสื้อสากลปิดทับแต่บั้นท้ายปืนโผล่ให้เห็นไม่รู้ว่า M16 หรือทาโว่ แล้วก็มีคนในสภาขว้างแก็สน้ำตาใส่ ตอนนั้นคนที่รุกเข้าไปจำนวนไม่ถึงสิบ แล้วเขาก็ต้องการนำเอาM16มามอบให้ตำรวจเท่านั้น ในรายงาน กสม.บรรยายว่า บุกเข้าไปในรัฐสภา (ที่จริงไม่ได้บุกรุกแต่ได้รับอนุญาตจากรองประธานสภาผู้แทนราษฏรให้เข้าไปสังเกตุการณ์ดูได้)แล้วนี่กสม.ก็เลยบรรยายเสียงดงามว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์มีความชอบธรรมที่จะประกาศพรก.ฉุกเฉินที่มีสถานการณ์ร้ายแรง

3. เรื่องไทยคม ก็บรรยายอย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว คือกล่าวหาว่า พีทีวี ปลุกปั่นยุยุง แต่ไม่เห็นกสม.พูดถึงASTVเลยสักนิด แล้วไม่ได้พูดถึง ปืนสไนเปอร์ (ใช่ครับสไนเปอร์แบบที่สุเทพพูดในสภานั่นแหละ) พวกเรายึดได้จากรถตู้ทหารครับ เอามายิงใครครับ วันนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพวกเราครับ เลยทำให้ แก็สน้ำตาที่พวกมันยิงทั้งหมดลมพัดหวลใส่พวกมันกันเองทำให้พวกมันแตกพ่ายหนียับเลยครับ และนี่ทำให้พวกมันเสียหน้า เลยขนทหารพร้อมอาวุธมายิงใส่พวกเราในวันที่ 10 เมษา 53 ไง กสม.ไม่เห็นพูดถึงเลย

4. วันที่ 10 เมษา 53 ศพแรกโดนทหารยิงเวลาประมาณบ่ายกว่าครับเข้าช่องท้องเสียชีวิตตอนเย็น ผอ.รพ.วชิระแถลงด้วยตัวเองครับ นี่ไงทหารใช้อาวุธสงครามสังหารประชาชน โดยไม่มีมาตรการจากเบาไปหาหนัก กสม.ไม่รู้เรื่องนี่ใช่ไหมครับ แล้วนักข่าวทีพีบีเอส ถ่ายทอดสด ก็โดนกระสุนจริงทะลุประตูด้านคนขับ กสม.ก็ไม่พูดถึง(น้องคนนี้โดนให้ออกครับ)

5. แล้วที่กสม.บอกมีเลเซอร์สีเขียวชี้เป้า ร่มเกล้า กรุณาขอรูปถ่ายหน่อยได้ไหมครับ อย่ามั่วครับ พูดอะไรต้องมีหลักฐานครับ

6. ยิงM79สังหารหญิงสีลมเมื่อวันที่ 22 เมษา 53 กสม.กสม.ได้อ่านหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับเมื่อเช้าวันที่ 23 เมษา 53 หรือไม่ครับ ขออ้างฉบับเดียวคือไทยรัฐ ได้ลงภาพต้นไม้ขนาดหนึ่งคนโอบได้ หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ตึกซิลลิคหัวมุมถนนสีลม มีรอยถากขนาดใหญ่ทะลุแก่นกลางประมาณเกือบสองนิ้ว เปลือกกระจุยเป็นทางยาว แนวถากบ่งชัดจากบนลงล่างและ ทิศจากตึกสูงตรงข้ามตึกซิลลิค ซึ่งคนละทิศกับบรมราชานุสาวรีย์ ร.6.เลยครับ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยว่า M79 ดังกล่าวจะยิงมาจากบริเวณที่เสื้อแดงชุมนุมอยู่ มันถูกยิงจากตึกสูงด้านตรงข้ามตึกซิลลิคต่างหาก และเมื่อถากต้นไม้แล้ว สะเก็ดก็พุ่งตัดลงมาสังหารหญิงดังกล่าวครับ ข้อสรุปของกสม.เท็จโดยสิ้นเชิงครับ

7. กรณีโรงพยาบาลจุฬา กสม.ประนามนปช.อย่างเมามัน ว่าเป็นการทำลายหลักมนุษยธรรมกติกาสากลที่สังคมอารยะพึงยึดถือ ก่อนอื่นต้องเรียนว่า กติกาสากลห้ามใช้โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นเครื่องมือหรืออำนวยความสะดวกให้แก่ฝ่ายหนึ่งในการทำลายล้างอีกฝ่ายหนึ่งทั้งทางการเมืองและการทหารด้วยเช่นกัน ทำไม่กสม.ไม่หารายละเอียดเล่าครับว่า มีทหารของศอฉ.ซ่อนตัวอยู่ในลานจอดรถของโรงพยาบาลจุฬาหรือไม่ มีหน่วยอรินทรราชอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาหรือไม่ ผมเป็นคนมากราบขอโทษประชาชนและโรงพยาบาลจุฬาในกรณีของพายัพปั้นเกตุบุกค้นรพ.จุฬาในเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 30 เมษา 53 ครับ แล้วตอนที่พายัพ ปั้นเกตุ เข้าบุกค้นรพ.จุฬาก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผมครับ แม้ผมนั่งในที่แถลงข่าว แต่เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นการตอบโต้กันระหว่างนักข่าวกับคุณพายัพว่าจริงหรือเท็จโกหกใส่ความรพ.หรือเปล่า พายัพก็เลยลุกพานักข่าวไปในบัดดลเลยครับ แล้วความจริงตอนพายัพเข้าไป กสม.ก็บอกเองว่า ผู้อำนวยการ รพ.จุฬาเป็นผู้ยินยอมให้พายัพเข้าไปตรวจดูครับ ส่วนจำนวนคนที่เข้าไปและรายละเอียดที่ กสม.บรรยายมา จริงบ้างเท็จบ้างครับ ซึ่งต้องถือว่าใช้ไม่ได้
กสม.โจมตีนปช.อย่างรุนแรงกรณีที่ไปชุมนุมส่งเสียงดังรบกวนมีถังแก็ส5ถังอันอาจจะเกิดเหตุระเบิดได้ ต้องถามกสม.แล้ว ทำไม โรงพยาบาลตำรวจซึ่งอยู่ใจกลางของการชุมนุมเลย เพราะห่างเวทีราชประสงค์ไม่ถึง 50 เมตรครับ ไม่เห็น แพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่ คนไข้ผู้รับบริการ เขาโจมตีใส่ร้ายนปช.อย่างเช่นที่เกิดที่ รพ.จุฬาที่ห่างจากเวทีกว่า 3 กิโลเมตรเล่าครับ นปช.และรพ.ตำรวจ ต่างเอื้ออาทรต่อกันมีมิตรจิตมิตรใจต่อกันอย่างเต็มเปี่ยมเลยครับ รพ.ตำรวจไม่มีท่าทีเป็นศัตรูต่อคนเสื้อแดง เหมือนเช่นที่ รพ.จุฬาแสดงออกถึงความเป็นศัตรูต่อนปช.คนเสื้อแดงแม้แต่น้อย

8. กรณีชายชุดดำ 12 ศพที่ศาลได้วินิจฉัยไปแล้ว ในบริเวณโดยรอบราชประสงค์เช่น ถนนราชปรารถ ประตูน้ำ สามเหลี่ยมดินแดง แอร์พอร์ตลิงค์ บ่อนไก่ ถนนพระรามสี่ ริมรั้วสวนลุมพินี ถนนราชดำริ หัวถนนสีลม ไม่พบมีชายชุดดำครับ กสม.ได้ติดตามหรือไม่ แล้วที่สี่แยกคอกวัว อันเป็นต้นกำเนิดนิยายเรื่องชายชุดดำ ดีเอสไอก็ได้เชิญ นักข่าวอัลจาชีเราะที่เป็นเจ้าของคลิปวิดีโอชายชุดดำมาให้ข้อเท็จจริง เขายืนยันว่าคลิปดังกล่าว เขาซื้อมาจากผู้อื่นครับ เท่านี้ก็โยนเรื่องคลิปชายชุดดำทิ้งได้แล้ว เพราะคนผลิตสร้างเรื่องเองขึ้นมาทั้งหมดครับ ไม่สามารถรับฟังว่าเป็นเรื่องจริงได้ นักข่าวอัลจาชีเราะห์ยังยืนยันว่า เขาและทีมงานรวม5คน วนเวียนไปมาบริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนดินสอ ถนนตะนาว ในช่วงบ่ายจนค่ำมืดของวันที่10เมษายน53เขาไม่พบชายชุดดำครับ แล้วภาพที่รบ.อภิสิทธิ์บอกว่า มีรถตู้ขาวมาส่งชายชุดดำที่ถืออาวุธสงคราม เมื่อพิสูจน์ในรายละเอียดแล้ว ปรากฏว่าสถานที่รถตู้จอดคือ สี่กั๊กพระยาศรี ไม่ใช่สี่แยกคอกวัว การส่งชายชุดดำที่สี่กั๊กพระยาศรีแล้วชายชุดดำเดินถืออาวุธสงครามอาก้า เอ็ม16ไปจนถึงสี่แยกคอกวัว เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะไกลเกือบ5กิโลเมตรครับ นี่เป็นนวนิยายโกหกพกลมอีกเรื่องที่ รบ.อภิสิทธิ์จงใจสร้างขึ้นใส่ร้ายคนเสื้อแดง

9. กสม.บรรยายไว้เองว่า มีการติดโปสเตอร์ “เขตกระสุนจริง” แต่ไม่เห็นกสม.ประนามเลย แปลว่า สามารถ ติดโปสเตอร์ “เขตกระสุนจริง”ได้โดยไม่เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนใช่หรือไม่ แปลว่า ชีวิตมนุษย์มีค่าไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานสิงห์สาราสัตว์ต่างๆ ใช่หรือไม่ อย่าลืมครับว่า นี่เป็นการต่อสู้กันทางการเมือง รัฐบาลไม่มีสิทธิถือว่าประชาชนเป็นลิงค่างบ่างชะนีที่จะฆ่าได้โดยไม่ผิด หากแม้นว่ามีชายชุดดำจริง คุณต้องส่งมือสังหารของคุณประกบ “จับกุมครับ ไม่ใช่ฆ่า เว้นแต่เขายิงคุณก่อนในระยะประชิด คุณจึงยิงป้องกันตัวได้ และเป็นการยิงป้องกันตัวไม่ใช่จงใจฆ่าให้ตายนะครับ” คนตายในเหตุการณ์ทุกคน ไม่มีอาวุธครับ ไม่ได้ใส่ชุดดำ แล้วกสม.ไม่ได้ประนาม “พลซุ่มยิง พลแม่นปืน ตามตึกสูงต่างๆ โดยรอบสี่แยกราชประสงค์เลยครับ” กสม.อนุญาตให้มีพลซุ่มยิง พลแม่นปืนตามตึกสูงได้ โดยไม่เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนใช่ไหมครับ
แล้วเสธ.แดง พลตรีขัตติยะสวัสดิผล โดนลอบยิงโดยพลซุ่มยิง ทำไมไม่เห็นกสม.เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยจากวันที่โดนลอบสังหาร 13 พค.53 จนบัดนี้10 สค 56 ไม่เห็น กสม.ประกาศว่านี่เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนเลย แต่ที พลเอกร่มเกล้าธุวธรรมกสม.เดือดเนื้อร้อนใจเป็นการใหญ่โตและใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดงด้วยว่า “มีแสงเลเซอร์สีเขียวชี้เป้า(โดยไม่ได้แสดงหลักฐานภาพถ่าย)มาที่พลเอกร่มเกล้า”
คุณเป็นกสม.ของพลอ.ร่มเกล้าใช่หรือไม่ คุณไม่ใช่กสม.ของเสธ.แดงใช่หรือไม่ สำหรับกสม.แล้ว เสธ.แดงไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่มนุษย์หรือไร?

10. กรณี6ศพวัดปทุม กสม.บรรยายว่ามีการปะทะกันโดยรอบบริเวณวัดปทุม มีชายชุดดำวิ่งไปๆมาๆหลบเข้าในวัดปทุมยิงต่อสู้กับทหาร ทำให้ทหารจำเป็นต้องยิงโต้ตอบ ให้เห็นภาพราวกับภาพยนต์ที่มี กองกำลังติดอาวุธซุ่มอยู่ในวัดปทุมยิงสังหารทหารอย่างดุเดือดรอบวัดปทุม ทหารก็เลยจำเป็นในการต่อสู้ป้องกันตัวยิงโต้ตอบกับอย่างสนั่นหวั่นไหว ก็เลยทำให้มีคนตาย6ศพ แต่บางตอนก็บรรยายว่า ไม่รู้ว่าตายที่ไหน นอกวัดหรือในวัด แล้วก็ลากศพเข้ามา ความจริงย่อมเป็นศัตรูกับคนโกหก ในที่สุดศาลได้ตัดสินแล้วครับว่า 6 ศพในวัดปทุมเสียชีวิตจากกระสุนของทหารที่มาทำหน้าที่ตามคำสั่งของศอฉ.โดยมี5ศพโดนยิงจากรางรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งมีทหารหน่วยจู่โจมพิเศษ3ค่ายเอราวัณและอีกศพตายจากทหารกองพัน2กรมทหารราบ31ที่ยิงมาจากถนนพระราม1แยกเฉลิมเผ่าครับ ศาลยังระบุไว้ว่า ไม่มีชายชุดดำ ไม่มีการยิงต่อสู้กัน ไม่มีเขม่าดินปืนบนร่างกายผู้ตาย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีการยึดอาวุธจากการค้นภายในวัด

ผมขอคัดค้านและประนาม รายงานกรณีเหตุการณ์ชุมนุม 12 มีนา-19 พค 53 ของ กสม.ฉบับนี้ครับ  เพราะเป็นเพียงเอกสารที่ปกป้องคุ้มครองอธิบายสร้างความชอบธรรมให้แก่รบ.อภิสิทธิ์ในการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนเท่านั้น พร้อมกับการใส่ร้ายป้ายสีกล่าวโทษคนเสื้อแดง และนปช.ตามใจชอบให้ผิดกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง  ไม่มีกฏหมายฉบับใด อนุญาตให้ฆ่าประชาชนสองมือเปล่าที่มาเรียกร้องทางการเมืองด้วยทหารที่ใช้อาวุธสงครามอย่างเหี้ยมโหดครับ

นพ.เหวง โตจิราการ 10 สค 56
 http://pantip.com/topic/30825455


กรรมการสิทธิฯ เปิดรายงานสลายชุมนุม ปี 53 แล้ว

เว็บไซต์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยแพร่ "รายงานผลการตรวจสอบเพื่อมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553" จำนวน 92 หน้า แล้ว ที่ http://www.nhrc.or.th/2012/wb/img_contentpage_attachment/692_file_name_9897.pdf
 

 
ท้ายรายงานฉบับดังกล่าว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สรุปบทเรียนต่อกลุ่มต่างๆ ดังนี้
ผู้ชุมนุม
1. ผู้จัดการชุมนุมต้องสร้างเจตจำนงร่วมกันในการชุมนุมโดยสงบและสันติ ตลอดจนดูแลให้มีอุดมการณ์ที่ถูกต้องในการรักษาระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

2. ผู้จัดการชุมนุมและผู้ร่วมชุมนุมต้องมีหน้าที่ร่วมกัน ทำให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ ยึดแนวทางสันติวิธีและเจรจาไกล่เกลี่ย ไม่ปลุกระดม อีกทั้งการชุมนุมนั้นต้องปราศจากอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธทุกชนิดในพื้นที่การชุมนุม รวมถึงไม่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์หรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทุกประเภท

3. ผู้จัดการชุมนุมและผู้ร่วมชุมนุมต้องชุมนุมในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั่วไป หรือให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมด้วย
ภาครัฐ
1. รัฐต้องดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันมิให้กระทบต่อสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงกรอบแห่งกฎหมาย มาตรฐานสากล รวมถึงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ
2. ควรหลีกเลี่ยงการประกาศใช้กฎหมายพิเศษเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม เพราะไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลสถานการณ์การชุมนุมได้อย่างมีประสทิธิภาพ รัฐจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกฎหมายที่เหมาะสมหรือกลไกเฉพาะเพื่อดูแลและรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม
3. การดูแลสถานการณ์การชุมนุมโดยรัฐ ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบเป็นการเฉพาะ ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวต้องมีแผนปฏิบัติการและขั้นตอนที่ชัดเจน มีเจ้าหน้าที่ที่มีทักษะในการทำงานด้านมวลชน รวมถึงเครื่องมือที่เหมาะสม
อ่านความเห็นและข้อเสนอในรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ที่นี่

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 8 ก.ค.2554 หน้า 3 ได้เปิดเผย “ผลการตรวจสอบ กรณีเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.-19 พ.ค.2553” ของคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งต่อมา น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ และประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ยอมรับว่า ฉบับร่างดังกล่าวเป็นของ กสม.จริง แต่เป็นเพียงร่างรายงานของ “คณะทำงาน” ซึ่งได้สำรวจ เก็บข้อมูล เบื้องต้นและยังต้องผ่านการพิจารณาของอนุกรรมการเฉพาะกิจอีก 3 ชุด และกรรมการสิทธิชุดใหญ่อีกจึงจะเป็นรายงานที่พร้อมเผยแพร่  นอกจากนี้ กสม. ยังชี้แจงกับพะเยาว์ อัคฮาค มารดาของพยาบาลอาสา กมนเกด อัคฮาด ซึ่งหนึ่งในหกผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ด้วยว่าร่างรายงานที่หลุดออกไปยังมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และรับปากว่าจะแถลงความคืบหน้าทุกเดือน โดยจะแจ้งข่าวให้ผู้เสียหายทราบและร่วมเข้าฟังด้วย

twitter

ห้องแชทKonthaiuk