PEACE TV LIVE

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คลิป เสวนา จาก ป.ถึง ป. กับ3 ปอ อ.ปวิน อ.ปิยบุตร คุณประวิตร และ อ.สมศักดิ์ เจียม งานศพอากง 25สิงหา 55

ปรมาจารย์มาถึง

สวรรค์ของ อากง

ผู้กำกับคนดังเดินทางมาถึงงานศพ #อากง สวัสดีครับพี่เจ้ย อภิชาติพงษ์ /@go6tv

มาตรา112 ไม่ได้เป็นเพียง มาตรา 112 แต่เป็น มาตรา กษัตริย์นิยม -อ.ปิยบุตร
 

ปิยบุตร แสงกนกกุล: คำไว้อาลัย 'อากง'

หมายเหตุ : คำ ไว้อาลัยของ ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าวภายในงานศพของนายอำพล หรือ “อากง” คืนวันที่ 25 ส.ค. ที่วัดลาดพร้าว


โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับอากงและครอบครัว ไม่ใช่ปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสิทธิในการได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่า ศาลพิพากษาเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสิทธิในการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาเรื่องสิทธิของผู้ถูกจับกุมคุมขังเท่านั้น และไม่ใช่ปัญหาเรื่องมาตรฐานและคุณภาพชีวิตในเรือนจำเท่านั้น หากพูดว่ากรณีอากงมาจากปัญหาเหล่านี้ และพูดเพียงแค่นี้ จบเพียงเท่านี้ แล้วไม่พูดต่อก็เป็นการจงใจละเลยต้นตอของปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งนั่นคือ มาตรา 112 แล้วผลักภาระไปให้คนในกระบวนการยุติธรรมที่อาจจะมีข้อผิดพลาดบกพร่องได้
โศกนาฏกรรมอากงและครอบครัวแสดงให้เห็นถึงอัปลักษณ์ของมาตรา 112 ในทุกมิติ
ในแง่ตัวบทกฎหมาย มาตรา 112 มีอัตราโทษที่สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับการกระทำความผิด ไม่มีเหตุยกเว้นความผิด ไม่มีเหตุยกเว้นโทษ
ในแง่การบังคับใช้มาตรา 112 การบังคับใช้มาตรา 112 ไม่อนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว การดำเนินพิจารณาคดีต่อผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดตาม มาตรา 112 นั้นให้ดำเนินการโดยลับ
ในแง่อุดมการณ์เบื้องหลังมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เท่ากับสถาบันกษัตริย์และเท่ากับความมั่นคงของราชอาณาจักร
บุคคลที่เป็นเหยื่อของมาตรา 112 จะถูกประทับตรา แปะฉลากให้เสมือนสิ่งซึ่งไม่ใช่มนุษย์ เมื่อไม่ใช่มนุษย์ กฎหมายและสิทธิต่างๆ ที่มนุษย์พึงมีพึงได้หรือเป็นเจ้าของ ก็ไม่ให้นำมาใช้กับบุคคลที่เป็นเหยื่อของมาตรา 112 บุคคลอื่น สาธารณชน หรืออำนาจรัฐ จะปฏิบัติต่อเหยื่อ 112 อย่างไรก็ได้ จะประนาม จะต่อต้าน จะข่มขู่คุกคาม จะจับกุมคุมขัง จะทำร้าย หรือถึงกระทั่งจะเอาชีวิตก็ย่อมได้ เพราะมาตรา 112 ไม่ได้เป็นเพียงมาตรา 112 มาตรา 112 ไม่ได้เป็นเพียงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา แต่มาตรา 112 เป็นเครื่องมีอที่กำเนิดขึ้นมาเพื่อค้ำจุนอุดมการณ์แบบกษัตริย์นิยม
เมื่อโศกนาฏกรรมอากงและครอบครัวเปิดเผยให้เห็นถึงอัปลักษณะของมาตรา 112 แล้ว อัปลักษณะของมาตรา 112 ก็แสดงให้เห็นต่อไปถึงปัญหารากฐานของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน นั่นคือ สถาบันกษัตริย์และอุดมการณ์กษัตริย์นิยม หากตำแหน่งแห่งที่ของสถาบันกษัตริย์ไม่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ หากตำแหน่งแห่งที่ของสถาบันกษัตริย์เป็นเหมือนประเทศในยุโรป หรือในญี่ปุ่น กฎหมายแบบมาตรา 112 ก็จะไม่เป็นแบบนี้ การใช้มาตรา 112 ก็จะไม่เป็นแบบนี้ เหยื่อจากมาตรา 112 ก็จะไม่เกิดขึ้นแบบทุกวันนี้ และโศกนาฏกรรมของอากงและครอบครัวก็คงไม่เกิดขึ้น
วันนี้อากงจากไปแล้ว และอีกไม่กี่ชั่วโมงร่างกายของอากงก็จะสูญสลายไป หากว่ากันตามกฎธรรมชาติย่อมมีการเกิดและการตาย หากการตายนั้นมาตามธรรมชาติ มนุษย์ทุกคนก็คงทำใจได้ว่ามันเป็นไปตามกฎอนิจจัง แต่หากการตายในบางครั้งกับถูกยืดระยะเวลาออกไป และการตายในบางครั้งกลับถูกเร่งให้ตายก่อนเวลาอันควร
แม้อากงจากไปแล้ว ร่างกายอากงจะไม่หลงเหลืออะไรอีกนอกจากเถ้าถ่าน แต่มาตรา 112 ยังคงอยู่ อัปลักษณะของมาตรา 112 ยังคงอยู่ คำพิพากษาคดีของอากงก็ยังดำรงอยู่ต่อไปเสมือนเป็นอนุสรณ์ ส่วนจะเป็นอนุสรณ์แห่งความดีงาม หรืออนุสรณ์แห่งความเลวร้าย วิญญูชนทุกท่านในที่นี้ย่อมพิจารณากันได้เอง

ประวิตร โรจนพฤกษ์: คำไว้อาลัยอากง SMS ที่ผมไม่เคยรู้จัก


วันนี้ผมมาพูดไว้อาลัยในฐานะคนๆ หนึ่งที่ไม่เคยรู้จักหรือพบปะอากงเลย
คนเราไม่จำเป็นต้องรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเพื่อที่จะรู้สึกเจ็บปวดกับครอบครัวผู้อื่นที่เดือดร้อนและเป็นทุกข์
อากงไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นเหยื่อของสังคมที่เห็นดีเห็นงามกับกฎหมายอันไม่ชอบธรรมที่ปิดหูปิดตา ปิดปากประชาชนและกักขังจองจำผู้ที่แสดงความเห็นต่างด้านลบเกี่ยวกับสถาบัน กษัตริย์ อย่างไม่พอเพียง ถ้าวันนี้เราไม่ต่อต้าน กฎหมาย ม.112 อากงอาจมิใช่ศพสุดท้ายและครอบครัวอื่นก็อาจต้องหลั่งน้ำตาเหมือนครอบครัว ญาติมิตรของอากง ณ ค่ำคืนนี้
เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้ว ผมมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่งในวงทานอาหารกับทูตต่างชาติ
ส.ส. กทม. ท่านนี้บอกผมกับผู้ร่วมวงอาหารเป็นภาษาอังกฤษว่า ว่าด้วย ม.112 นั้น หากใครมิได้แสดงความเห็นด้านลบเกี่ยวกับสถาบันฯ ต่อสาธารณะ ก็ไม่เดือดร้อน ได้ยินเช่นนั้นผมก็รู้สึกทนไม่ได้ แล้วโต้กลับไปว่า อย่างกรณีอากง แกต้องมาติดคุกจนตายเพียงเพราะถูกตัดสินว่าส่ง SMS หยาบๆ 3-4 ครั้งให้คนๆ เดียว อันได้แก่เลขาส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นั่นถือว่าเป็นการแสดงออกต่อสาธารณะหรือ?
ถ้าเลขาส่วนตัวนายอภิสิทธิ์จะมีเมตตาเพียงสักเล็กน้อย ก็คงไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ เพราะข้อความไม่ได้ไปขึ้นบนจอช่อง 3 ให้คนอ่านดูกันทั้งประเทศ หากขึ้นจอมือถือเล็กๆ ของตัวแกเท่านั้นเอง (นี่ยังไม่นับรวมข้อถกเถียงที่ว่าตกลงอากงเป็นคนส่ง SMS เหล่านั้นจริงหรือไม่ หรือคำตัดสินของศาลยืนบนพื้นฐานการตรวจสอบว่าอากงกระทำผิดจริงจนปราศจากข้อ สงสัยใดๆ จริงหรือไม่)
การมาพูดวันนี้ ผมทราบดีว่ามีคนกล่าวหาผมและท่านอื่นที่ได้รับเชิญให้มาพูดในที่นี้ มา ‘หากินกับศพกับความตาย’ ของอากง หากคำเหล่านี้ออกมาจากปากผู้ที่เป็นห่วงเป็นใยอากงจริง ผมคงรับพอฟังได้ แต่ข้อกล่าวหาเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของบรรดาคนรักเจ้าอย่างไม่รู้จักพอ เพียงที่สนับสนุน ม.112 และหลายคนก็ยังได้เคยแสดงความสะใจกับการติดคุกและการตายของอากง วันนี้พวกเขายังเสแสร้งทำเป็นห่วงผู้ที่เสียชีวิตจากกฎหมายเผด็จการที่พวก เขาสนับสนุนปกป้องอย่างแข็งขัน
ผมไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จักอากงเป็นการส่วนตัว เพื่อที่จะรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกของคนตระกูลตั้งนพกุล วันใดที่ผู้คนรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดได้กับเฉพาะคนที่เรารู้จักหรือสนิทสนม วันนั้นสังคมคงสิ้นหวัง
ผมอยากถามในที่นี้ว่าความเมตตาในหมู่ผู้ที่อ้างว่าเทิดทูนบุรุษอัน ประเสริฐแต่ตรวจสอบและวิพากษ์ไม่ได้ มีหรือไม่กับคนที่เห็นต่างทางการเมือง?
แต่ผมคงไม่ได้คำตอบ ณ ที่นี้ในคืนนี้ เพราะพวกเขาคงมิได้สนใจกับการเสียชีวิตของชายแก่ๆ ผู้หนึ่งที่เราเรียกว่า อากง ภายใต้ ‘กฎหมาย’ ที่พวกเขาสนับสนุนปกป้อง
ขอให้อากงที่ผมไม่เคยรู้จักไปสู่สุคติ และขอให้อาม่า (ป้าอุ๊) และลูกหลานพบกับความสงบในชีวิตตามเท่าที่พอจะได้ในสังคมที่เสมือนคุกยักษ์ ทางความคิดของประชาชนผู้เห็นต่างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์



ป.ล. คำไว้อาลัยเขียนขึ้นเพื่อพูดในงานฌาปนกิจศพอากง ณ วัดลาดพร้าว วันที่ 25 สิงหาคม 2555 ในฐานะแขกรับเชิญ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

twitter

ห้องแชทKonthaiuk