"พ่อสร้างชาติด้วยสมองและสองแขน
พ่อสร้างแคว้นธรรมศาสตร์ประกาศศรี
พ่อของข้านามระบือชื่อปรีดี
แต่คนดีเมืองไทยไม่ต้องการ"
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200513103180677&set=a.2461173579292.2141141.1550786099&type=1&theater
พ่อสร้างแคว้นธรรมศาสตร์ประกาศศรี
พ่อของข้านามระบือชื่อปรีดี
แต่คนดีเมืองไทยไม่ต้องการ"
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10200513103180677&set=a.2461173579292.2141141.1550786099&type=1&theater
การแปรอักษรที่ต้องมีการตระ เตรียมหนีสันติบาลเมื่อ สามสิบปีก่อน
(จากบันทึกของ วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์)
ปี พ.ศ.๒๕๒๒ เป็นปีแรกที่ผมเข้าเป็นนักศ ึกษาปี ๑ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วงเวลานั้นเพิ่งผ่านเหตุก ารณ์สังหารหมู่ใูนธรรมศาสตร ์ ๖ ตลุาคม ๒๕๑๙ ได้เพียง ๓ ปี บรรยากาศในมหาวิทยาลัยยังอย ู่ในช่วงฟื้นไข้จากเหตุการณ ์หฤโหด กิจกรรมนักศึกษาเพิ่งกลับมา แต่ยังซบเซา ปกคลุมไปด้วยความหวาดระแวง อึมครึม มีเรื่องต้องห้ามมากมายที่ห ้ามพูดห้ามเอ่ยถึงจำได้ว่าบ ริเวณทางเข้าประตูท่าพระจัน ทร์มีโปสเตอร์ตีพิมพ์จดหมาย ของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จากประเทศอังกฤษ เป็นลายมือเขียนด้วยมือซ้าย ด้วยเหตุว่าท่านเพิ่งฟื้นจา กอาการเส้นโลหิตในสมองแตก พูดไม่ได้ มือขวาใช้การไม่ได้ แต่ความทรงจำยังดี อาจารย์ป๋วยเขียนคำอวยพรสั้ นๆ ถึงเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเดินส ู่รั้วเหลืองแดงเป็นครั้งแร ก
เวลานั้นไม่มีใีครกล้าเอ่ยถ งึ ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยอยู่ในประ เทศฝรั่งเศส ชื่อนี้เป็นสิ่งต้องห้ามส าหรับสังคมไทยมานานกว่า ๓๐ ปีแล้วตั้งแต่ท่านลี้ภัยการ เมืองภายหลังรัฐประหารปี ๒๔๙๐ จะมีข่าวสารเรื่องราวของท่า นในสังคมก็เพียงช่วงสั้นๆ ภายหลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ แต่พอหลังเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เรื่องราวของท่านกลับเงียบห าย แม้ในมหาวิทยาลัยที่ท่านเป็ นผู้ก่อตั้งก็ยังไม่มีใครพู ดถึงในที่แจ้ง หนังสือเกี่ยวกับปรีดีตามชั ้นหนังสือในห้องสมุดมีแทบนั บเล่มได้
ปรีดี พนมยงค์ ในเวลานั้น คนในสังคมรู้เพียงว่าเขาคือ หนึ่งในคณะราษฎรที่จะล้มสถา บันกษัตริย์ เป็นผู้เกี่ยวข้องกับกรณีสว รรคตในหลวงรัชกาลที่ ๘ และเป็นคอมมิวนิสต์ เกียรติคุณของท่านในเวลานั้ นรู้กันเฉพาะในหมู่คนที่สนใ จศึกษา และไม่มีใครกล้าพูดกล้าแสดง ความเห็นในที่สาธารณะ ชีวิตการทำกิจกรรมในมหาวิทย าลัยทำให้ผมมีโอกาสได้ศึกษา เรื่องราวของอาจารย์ปรีดีเป ็นประจำ จนกระทั่งปลายปี ๒๕๒๕ ผมมาช่วยเตรียมงานแปรอักษรข องชุมนุมเชียร์ในงานฟุตบอลป ระเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ที่จ ะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีถัดไ ป ผมเห็นปฏิทินของสหกรณ์ธรรมศ าสตร์เป็นรูปปรีดี พนมยงค์ พร้อมคำกลอนบทหนึ่งว่า “พ่อนำชำติด้วยสมองและสองแข น พ่อสร้างแคว้นธรรมศาสตร์ประ กาศศรี พ่อของข้ำนามระบือชื่อ ‘ปรีดี’ แต่คนดีเมืองไทยไม่ต้องการ”
ผมได้ไปปรึกษาคุณอดุลย์ โฆษะกิจจาเลิศ ประธานชุมนุมเชียร์ซึ่งเป็น เพื่อนสนิท ว่างานบอลประเพณีฯ ที่จะมีในเดือนหน้า เราน่าจะแปรอักษรเป็นข้อควา มนี้ และเปิดรูปอาจารย์ปรีดีบนสแ ตนด์เชียร์ที่เี่ต็มพรืดด้ว ยนักศึกษาจำนวน ๒,๕๐๐ คน เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่านัก ศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นนี้ไม่เ คยลืมอาจารย์ปรีดี
คุณอดุลย์เห็นด้วย และบอกว่าพวกเราอยู่ปี ๔ กันแล้ว น่าจะทำอะไรเป็นการตอบแทนผู ้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาส ตร์ในบั้นปลายชีวิตของท่าน เมื่อสืบจนพบว่าคนเขียนกลอน บทนี้เป็นเพื่อนคณะนิติศาสต ร์ชื่อเล่นว่า เทียน เราก็ได้ขออนุญาตนำกลอนของเ ขามาแปรอักษร ต่อมาจึงประกาศให้ทีมงานบาง คนทราบว่าการแปรอักษรครั้งน ี้จะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ที่ลูกแม่โดมจะเผยแพร่รูปอา จารย์ปรีดีสู่สาธารณชนเป็นค รั้งแรก เนื่องจากสถานีโทรทัศน์ช่อง ๙ ถ่ายทอดสดตลอดรายการ
เราตกลงกันว่าการแปรอักษรนี ้จะเป็นความลับ รู้กันไม่กี่คนไม่บอกอาจารย ์หรือศิษย์เก่าใดๆ เพราะกลัวว่าจะถูกผู้ใหญ่บา งคนห้ามปรามด้วยความหวาดกลั ว
เวลานั้นพวกเราวางแผนกันว่า หากแปรอักษรไปแล้วเกิดมีตำร วจหรือสันติบาลมาถามหาก็นัด แนะกันว่าจะหนีไปทางไหน และจะไม่ซัดทอดกัน หากมีการจับก็ให้มีคนโดนจับ น้อยที่สุด
พอถึงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๖ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรม ศาสตร์ครั้งที่ ๓๙ เริ่มขึ้น ณ สนามศุภชลาศัย เราวางแผนเตี๊ยมกับทางโฆษกส นาม ขณะที่ขบวนพาเหรดล้อการเมือ งเข้าสู่สนามได้สักพัก พอได้เวลาถ่ายทอดสดเราก็วิท ยุไปยังโฆษกบอกผู้ชมให้ตั้ง ใจดูหน้าสแตนด์เชียร์ธรรมศา สตร์เพราะจะได้พบปรากฏการณ์ ครั้งแรกและให้กล้องโทรทัศน ์เตรียมจับภาพ บนอัฒจันทร์เริ่มแปรอักษรเป ็นคำกลอนพร้อมกับที่โฆษกสนา มอ่านกลอนบทนี้ดังก้องสนามศ ุภชลาศัย ปิดท้ายด้วยภาพอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ มีฉากหลังเป็นรูปโดม สัญลักษณ์ของ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
เมื่อโฆษกสนามพูดบทกลอนซ้ำอ ีกครั้ง ในสนามเงียบก่อนที่เสียงปรบ มือจะดังลั่น ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ศิษย์เก่า ต.มธก. หลายคนยืนขึ้น น้ำตาไหลด้วยความดีใจเพราะเ ป็นครั้งแรกในรอบ ๓๐ กว่าปีที่มีการพูดถึงอาจารย ์ปรีดีชัดเจนในที่สาธารณะ ขณะที่นักศึกษาบนอัฒจันทร์โ ห่ร้องด้วยความยินดีที่ตนใน ฐานะลูกแม่โดมได้ทำอะไรบางอ ย่างเพื่อผู้ก่อตั้งมหาวิทย าลัยแห่งนี้
พอแปรอักษรรูปนี้เสร็จ พวกเราที่อยู่ด้านล่างทำ หน้าที่ควบคุมสแตนด์เชียร์ต ่างสวมกอดกันด้วยความดีใจที ่สามารถทำให้อาจารย์ปรีดีออ กมาสู่พื้นที่สาธารณะได้เป็ นครั้งแรก ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาชุมนุมเช ียร์ก็ได้รับจดหมายจากอาจาร ย์ปรีดีส่งตรงจากประเทศฝรั่ งเศส ความว่ามีคนส่งภาพการแปรอัก ษรครั้งนี้ไปให้ท่านดู จึงเขียนจดหมายมาขอบใจคนที่ เกี่ยวข้องทุกคนที่ยังรำลึก ถึงท่าน
(จากบันทึกของ วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์)
ปี พ.ศ.๒๕๒๒ เป็นปีแรกที่ผมเข้าเป็นนักศ
เวลานั้นไม่มีใีครกล้าเอ่ยถ
ปรีดี พนมยงค์ ในเวลานั้น คนในสังคมรู้เพียงว่าเขาคือ
ผมได้ไปปรึกษาคุณอดุลย์ โฆษะกิจจาเลิศ ประธานชุมนุมเชียร์ซึ่งเป็น
คุณอดุลย์เห็นด้วย และบอกว่าพวกเราอยู่ปี ๔ กันแล้ว น่าจะทำอะไรเป็นการตอบแทนผู
เราตกลงกันว่าการแปรอักษรนี
เวลานั้นพวกเราวางแผนกันว่า
พอถึงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๖ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรม
เมื่อโฆษกสนามพูดบทกลอนซ้ำอ
พอแปรอักษรรูปนี้เสร็จ พวกเราที่อยู่ด้านล่างทำ หน้าที่ควบคุมสแตนด์เชียร์ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น