คลิป"พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ" ชี้แจงนโยบาย "รถเมล์ฟรีเป็นไปได้ กทม.-รบ.จ่ายคนละครึ่ง" ในรายการ เจาะข่าวเด่น 22มค.56

"พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ" ชี้แจงนโยบาย  ในรายการ เจาะข่าวเด่น
พงศพัศเผยคลุกชุมชน-สัมผัสปัญหา ที่มานโยบาย มั่นใจรถเมล์ฟรีเป็นไปได้ กทม.-รบ.จ่ายคนละครึ่ง

เมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2556 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 ให้สัมภาษณ์ “รายการเรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่าหลังลงพื้นที่ชุมชนต่างๆมายาวนานก็ทราบว่าทุกคนมีความทุกข์ ก็ตัดสินใจอาสามาทำงานการเมือง สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อทำงานและวัดดัชนีความสุขของประชขาชน สำหรับนโยบายที่เป็นข้อเด่นก็มาจากการที่ได้เห็นปัญหาที่หมักหมมมานาน จึงคิดเป็นนโยบายออกมาเช่นเรื่องชุมชน ปัญหาใกล้ตัว ระวังความปลอดภัยบ้านทุกหลัง กระบวนการต้องประสานกับตำรวจ ตลอดจนนโยบายการแก้ปัญหาเสพติด ที่ต้องร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแก้ปัญหาขยะจาก 2,020 ชุมชน เป็นต้น

สำหรับนโยบายให้ขึ้นรถเมล์ ฟรีนั้นก็เพื่อลดรายจ่ายให้กับประชาชน หากประชาชนสามารถประหยัดรายจ่ายในส่วนนี้ได้ ก็จะมีเงินเก็บมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่อะไรที่เป็นการคืนความสุขก็จะทำเพื่อสร้างความหวังกำลังใจให้กับประชาชน โดยส่วนของเมล์นั้นขณะนี้มีรถเมล์ที่เป็นรถร้อน 1,600 คันให้บริการเป็นรถฟรีไปแล้ว 800 คัน และจะนำรถร่วมบริการเข้ามาประมาณ 1,600 คัน รวมเป็น 3,200 คัน ค่าใช้จ่ายกทม.และรัฐบาลจะแบ่งจ่ายคนละครึ่ง นอกจากนี้จะจัดระบบของรถเมล์ใหม่ทั้งหมด เพราะบางคนรอรถเมล์นานมาก แต่ต่อไปสามารถขึ้นได้ทุกสายเพื่อลดเวลาการเดินทาง ที่สำคัญคือการลดปริมาณรถเมล์ออกจากท้องถนน รถเมล์บางส่วนสามารถรับประชาชนจากชุมชนได้เลย ถือเป็นบริการพื้นฐาน ทุกคนต้องการความสะดวกและรวดเร็ว การลดค่าใช้จ่าย

ส่วนประสานงาน แบบไร้รอยต่อกับรัฐบาลนั้น ก็เพราะรัฐบาลและกทม.ตั้งใจที่จะทำงานให้ประชาชนมีความสุข โดยงานของ กทม. และงานของทุกกระทรวง ทบวง มีส่วนเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นการติดตั้งระบบสายไฟ กทม.ก็ต้องอนุญาตก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ รัฐบาลจะมีส่วนอย่างยิ่ง ซึ่งมีผู้ว่าเป็นคนเชื่อมโยงให้กับคนกทม. หากเราสามารถคิดแบบเนื้อเดียวการดำเนินการจะเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น ซึ่งหลังจากเดินย่ำทุกพื้นที่ในกทม.มานานก็เห็นว่าการแก้ไขปัญหานั้นจะต้อง อาศัยการประสานกับรัฐบาล

เมื่อถามถึงที่มาของชื่อเล่นว่า "จูดี้" นั้นมาจากไหน พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า “สมัยเล่นรักบี้อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อนๆก็อาจจะเห็นว่าน่ารักดี ซึ่งผมได้ยินมาจากรุ่นพี่ๆว่าชื่อจูดี้นั้นมาจากชื่อของนักรักบี้ต่างประเทศ ที่มีบุคลิกคล้ายๆกับผมเพื่อนๆจึงเรียกผมว่าจูดี้ครับ "