PEACE TV LIVE

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คดีโกงครุภัณฑ์อาชีวะ5.3พันล้านบาท สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์

 

DSIรับคดีโกงครุภัณฑ์อาชีวะ5.3พันล้านบาท สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็นคดีพิเศษแล้ว-พบโยงนักการเมือง หลักฐานอื้อ!! @DNNSms

 

รมช.ศธ.แจงปมจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะมีปัญหา5.3พันล้าน ตรวจสอบแล้วมีขรก.ทุจริตปลอมลายเซ็น รมต. 

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:32:07 น.


ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามด่วนเรื่องปัญหาการซื้อครุภัณฑ์ของอาชีวศึกษา ของนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ถามายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯมอบหมายให้  น.ส.นริศรา ตันชวาลพิทักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาตอบกระทู้แทน

นายตวง กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนเรื่องทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ในสถาบันอาชีวศึกษา มูลค่า 5,300 ล้านบาท ว่า ไม่ได้เป็นการจัดสรรตามที่สถาบันอาชีวะต้องการ แต่ผู้บริหารส่วนกลางเป็นผู้กำหนดสเปคให้ เช่น มีการจัดซื้ออุปกรณ์ทำสปาไปให้สถาบันแห่งหนึ่ง แต่เมื่อสถาบันท้วงติงว่าไม่ต้องการ เจ้าหน้าที่ก็ขนอุปกรณ์ออกไปทันที ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงได้มีการตรวจสอบ หรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวหรือไม่
                               
น.ส.นริศรา ชี้แจงว่า ในการจัดซื้อ มีผู้บริหารสถาบันและครูผู้สอนในสายวิชาต่างๆ เข้ามาร่วมกำหนดสเปค แต่ยอมรับว่า มีการทำหนังสือร้องเรียนมาที่กระทรวงจำนวนมาก ตนก็ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยล่าสุดได้เชิญเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาเป็นกรรมการ โดยผลการสอบสวนขณะนี้ได้ข้อยุติแล้ว แต่ยังเป็นทางลับ แต่พบว่า มีข้าราชการทำผิดวินัยร้ายแรงด้วย  ซึ่งในองค์กรต้องยอมรับว่ามีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ ผู้รักองค์กรจริงๆ จะไม่พูดในประเด็นที่สื่อนำเสนอ และกลุ่มที่พูดในประเด็นสื่อนำเสนอ ทำตัวรักองค์กร แต่เมื่อสอบประวัติแล้วพบว่าทำผิดวินัย ทั้งนี้เมื่อพบทุจริต ตนก็สั่งยกเลิก โดยทุกอย่างทำตามระเบียบสำนักนายกฯ ส่วนการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนนั้นได้ดำเนินการตามคำขอของสถาบัน ไม่มีการจัดทำขึ้นเอง
                               
ภายหลังการประชุม น.ส.นริศราให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในด้านนโยบายตนได้ทำอย่างโปร่งใส ส่วนข่าวทุจริตที่ถูกเปิดเผยมาจากนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราบการทุจริตและประพฤติ มิชอบนั้น ตนเชื่อว่า เป็นการให้ข้อมูลเท็จจากกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ รวมถึงข้าราชการบางกลุ่มที่ไม่พอใจ หลังจากที่ตนสั่งยกเลิกบางโครงการที่พบว่ามีการดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส

"ข้าราชการที่ไม่พอใจขณะนี้มีจำนวน 7 คน ซึ่งมี 2 คนในจำนวนดังกล่าวทำผิดวินัยร้ายแรง คือการปลอมลายเซ็นรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้จ้างทนายเพื่อแจ้งความเอาผิดที่ สน.พระราชวังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" น.ส.นริศรา กล่าว
                               
เมื่อถามว่า คนที่ให้ข้อมูลดังกล่าวมีผู้อ้างว่าเป็นบริษัทเอกชนที่ไม่ยอมให้ผลประโยชน์ กับรัฐมนตรี น.ส.นริศรา กล่าวว่า ตนไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์จากใคร หากใครที่มีหลักฐานก็ขอให้เปิดเผยออกมา ขอยืนยันว่า ทำหน้าที่อย่างบริสุทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปชี้แจงในกมธ.ป.ป.ช. ก็ได้เห็นเอกสารที่ระบุว่ามาจากตน ขอให้ดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้างแบบมีผลประโยชน์ เมื่อพิจารณารายละเอียดแล้วพบว่าเป็นเอกสารปลอม ที่ปลอมทั้งตราครุฑ และลายเซ็นของตน

เมื่อถามว่าทราบว่าโครงการดังกล่าวได้ระงับการจัดซื้อไปบางส่วน น.ส.นริศรา กล่าวว่า ใช่ เพราะบางโครงการมีผู้เสนอชื่อประมูลเพียงรายเดียวก็ต้องยกเลิก และที่สำคัญขั้นตอนการประมูลเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ไม่สามารถเบิกเงินจาก สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรีได้เพราะมีประเด็นเรื่องการร้องเรียน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ได้ข้อยุติก่อน ทั้งนี้ตนนำเรื่องดังกล่าวไปรายงานต่อนายกฯ แล้ว ซึ่งนายกฯ ก็บอกว่า ปวดหัวกับเรื่องดังกล่าวที่พบว่าโครงการยังไม่เดินหน้า และนักเรียนก็เสียประโยชน์

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีการโยกย้ายในสำนักงานการ อาชีวศึกษาไม่เป็นธรรม น.ส.นริศรา กล่าวว่า เป็นการโยกย้ายตามระเบียบ โดยมี 2 ใน 8 คนที่ถูกย้ายได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นด้วย แต่กลับมีการร้องเรียนขึ้นมา ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ที่ถูกย้ายหน่วยงานเดิมนั้นอาจไม่พอใจ เนื่องจากมีผลประโยชน์จากหน่วยงานเดิม
 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1286785947&catid=04

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

twitter

ห้องแชทKonthaiuk