ภาพบรรยากาศ ราตรี ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมคำสัมภาษณ์ 1กพ.56

"ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์" ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว "กองทัพธรรม" ต้อนรับคับคั่ง

วันที่ 01 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 23:46:00 น.

 

เวลา 21.45 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังได้รับการปล่อยตัวจากการถูกจำคุกที่ประเทศกัมพูชา โดยนางสาวราตรี ถูกจำคุกที่กัมพูชาตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2553 ในข้อหาข้ามพรมแดนผิดกฏหมาย รุกล้ำเขตพื้นที่ทหาร และจารกรรมข้อมูล รวมถูกจำคุกที่กัมพูชาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ทั้งนี้ บรรยากาศที่สนามบิน นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มกองทัพธรรม มาต้อนรับ โดยนำดอกไม้ และชูป้ายข้อความให้กำลังใจนางสาวราตรี

"พนิช" ถูกหญิงวัยกลางคนต่อว่า ไม่ช่วยวีระ ออกจากคุกด้วย พนิชตอบด้วยสีหน้าขึงขัง "ผมก็เสียใจ ไม่แพ้กัน"

"ราตรี" เผย "วีระ" ฝากบอกคนไทยให้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อไป ด้านแซมดินบอก "วีระ" ดีใจมีกลุ่มไทยกลุ่มหนึ่งยังสนใจดูแลแผ่นดิน 4.6 ตร.กม. อยู่

22.15น. วินาทีแรก"ราตรี"ออกจากประตูทางเจ้าผู้โดยสารในประเทศช่องทางพิเศษ โผลเข้าสวมกอดเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่รอรับ

"ราตรี" บอก สิ่งที่จะทำอย่างแรก กราบพ่อแม่ ขอเวลาอยู่กับครอบครัว

กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ - สันติอโศก ราว 100 คน ร่วมต้อนรับ "ราตรี" กลับไทย ด้วยบรรยากาศปลาบปลื้มใจ

กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติร้องเพลง "ต้นตระกูลไทย" กระฮึ่มสุวรรณภูมิ" ต้อนรับ "ราตรี" กลับบ้าน

"ราตรี" ขอบคุณคนไทยที่ส่งกำลังใจให้เข้มแข็งตอนอยู่ในคุก ยืนยันไม่เคยทำผิดล่วงล้ำแผ่นดิน

 "ราตรี" กลับมาถึงไทย ด้วยชุดสูทเสื้อแขนยาวกางเกงสีน้ำตาล ด้วยสีหน้าอิดโรย

  "ราตรี" บอก อยู่ในคุกเปรซอว์ไม่ป่วย แต่น้ำหนักลด 5 กิโล

 

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556  เวลา 21.45 น.  นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 585 จากกรุงพนมเปญ  โดยมีกลุ่มกองทัพธรรมนำโดย เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกลุ่มกองทัพธรรม และประชาชนโดยทั่วไปเดินทางมารอให้กำลังใจบริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า ราว 200 คน พร้อมสื่อมวลชนที่รอติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงค่ำ

จากการสอบถามความเห็นเรือตรีแซมดินว่า การที่นางสาวราตรีได้กลับมา ถือเป็นผลงานของรัฐบาลหรือไม่ เรือตรีแซมดิน กล่าวว่า  ตนให้เครดิตรัฐบาลในการดำเนินการจนประสบความสำเร็จ สามารถพานางสาวราตรีกลับสู่แผ่นดินไทย และเป็นห่วงนายวีระ สมความคิด ที่ยังถูกคุมขังอยู่ที่กัมพูชา เมื่อถามว่ากลุ่มกองทัพธรรมคิดจะเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วย เหลือคุณวีระหรือไม่  เรือตรีแซมดินกล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวกับนายวีระ ทางกลุ่มกองทัพธรรมจะต้องปรึกษา มารดานายวีระก่อนการตัดสินใจ 

ทันทีที่เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นางสาวราตรี ได้เข้าสวมกอดกับญาติที่มารอรับ และพูดคุยสั้นๆกับนายพนิช วิกิตเศรษฐ์  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีต สส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างนั้นมีผู้มาให้กำลังใจตะโกนว่า “ราตรี คือ อองซาน ซูจี เมืองไทย” 

หลังจากนั้นนางสาวราตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆว่า  “ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไร และยังไม่รู้สึกดีใจ เพราะพี่วีระ (สมความคิด)  ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ”  นางสาวราตรีกล่าวและยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิด  ในขณะที่ถูกคุมขังตนไม่มีโรคประจำตัวแต่น้ำหนักลดลงไป 5-6กิโลกรัม ตอนนี้ยังไม่คิดจะทำอะไร โดยสิ่งแรกที่อยากทำคือกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ พร่อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ที่จริงได้มีการจัดเตรียมให้ออกอีกประตูทางออก แต่อยากเจอเพื่อนๆ ที่มาให้กำลังใจจึงตัดสินใจเดินทางออกประตูเดิม

หลังจากที่นางสาวราตรีเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปแล้วได้มีกลุ่ม ผู้ที่ไปรอต้อนรับนางสาวราตรี จำนวนหนึ่ง เข้ามารุมต่อว่านายพนิช กล่าวหาว่า ที่นายพนิช ถูกปล่อยตัวออกมาเพราะยอมรับต่อศาลกัมพูชาว่าตนได้ลุกล้ำเข้าไปในเขตแดน กัมพูชา ในขณะที่นางสาวราตรีและนายวีระไม่ยอมรับในประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ถูกตัดสิน จำคุก  ในขณะเดียวกันนายพนิชก็ได้ยืนปักหลักชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าวจนทำให้กลุ่ม คนที่รุมต่อว่าเริ่มสงบลงและหันไปต่อว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงตำหนินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตำหนินายชวน หลีกภัย แทน พร้อมทั้งยังชื่นชมนายพนิช ที่ยอมเดินทางมาต้อนรับนางสาวราตรีด้วยตัวเอง

พลวุฒิ สงสกุล : รายงาน 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1359741395&grpid=03&catid=03