สุเทพไม่เซ็นคลิปเม.ย.53 ให้การ10ชม. ดีเอสไอซัก40คำถาม วันนี้สอบ"2สไนเปอร์"
วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:36:10 น.

|
(หน้า1 มติชนรายวัน 29 สิงหาคม 2555)
แจง98ศพ
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์
ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
คดี 98 ศพจากเหตุสลายผู้ชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่พรรคประชาธิปัตย์
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม
|
ดี
เอสไอเรียกสอบ 2 พลซุ่มยิงวันนี้ สอบ′สุเทพ′มาราธอน 10 ชั่วโมง
ไม่เซ็นรับยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิต ยันคดีชายชุดดำอยู่ในศาล
ด้าน′เฉลิม′ห่วง′หมอตุลย์′ไม่กล้าพูดสร้างสถานการณ์
@ สอบสวน′สุเทพ′ข้ามวัน
กรม
สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
เข้าให้ปากคำในคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน 98 ศพ
จากเหตุชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม
ซึ่งกรณีนายสุเทพเข้าให้ปากคำนานกว่า 10 ชั่วโมง โดยเสร็จสิ้นในเวลา 01.00
น. ของวันที่ 28 สิงหาคม
โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์ในทันทีที่ให้ปากคำเสร็จสิ้นลงว่า
พนักงานสอบสวนดีเอสไอถามเยอะ
และได้นำคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนราชดำเนิน
ตอนกลางวันมาให้ดูและบอกว่าเป็นคลิปที่แสดงให้เห็นว่า ทหารยิงคนเสื้อแดง
และตนได้ตอบไปว่าไม่เคยเห็นมาก่อน
@ ไม่เซ็นรับยิงคนตาย
นาย
สุเทพกล่าวต่อว่า การยิงและมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 10
เมษายน 2553 ดังนั้น เมื่อดีเอสไอนำเอกสารการยอมรับมาให้เซ็นชื่อรับรอง
จึงไม่ได้เซ็นชื่อรับรองในเอกสารดังกล่าว
คลิปที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอนำมาให้ดู ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
พนักงานสอบสวนอ้างว่าเป็นคลิปนำมาจากยูทูบ เป็นภาพเหตุการณ์ตอนกลางวัน
มีเจ้าหน้าที่ทหารถือปืนเอ็ม 16 และปืนทราโว และในภาพไม่เห็นผู้เสียชีวิต
ส่วนวันเวลาที่ระบุอยู่ในคลิปไม่ได้สังเกตเนื่องจากให้ดูช่วงดึกแล้ว
นอกจากนั้นตนได้นำคำสั่งที่ลงนามทั้งหมดให้
พนักงานสอบสวนได้สอบถามว่านายอภิสิทธิ์เข้ามาสั่งการ ศอฉ.หรือไม่
ตนชี้แจงว่า อดีตนายกฯมีภารกิจมาก ได้มอบหมายคำสั่งในเชิงนโยบาย
ซึ่งตนในฐานะ
ผอ.ศอฉ.จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในขณะนั้นอย่างไร
งานใน ศอฉ.นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกคำสั่งใน
ศอฉ.ตนเป็นผู้ลงนามเอง
@ ยันคดีชายชุดดำอยู่ในศาล
"เรื่อง
ชายชุดดำ ที่ผมนำคลิปมาชี้แจง พนักงานสอบสวนถามผมว่า
หากมีชายชุดดำเข้าร่วมจริง มีผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธทำร้ายประชาชน
ไม่เห็นเจ้าหน้าที่จับใครได้สักคน ผมเลยตอบเขาว่า
คุณถามผมเหมือนกับเสื้อแดงเขียนคำถามให้มาถามผมเลย
ผมก็อธิบายให้เขาฟังว่าชายชุดดำมีจริง
และดีเอสไอได้ส่งฟ้องศาลแล้วขณะนี้คดี อยู่ที่ศาล
หากมีคนตายอยู่ในพื้นที่ควบคุมของผู้ชุมนุมจริงเราจะทราบว่าเขาตายก็ต่อ
เมื่อได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรของกระทรวงสาธารณสุข
และหากผู้ตายเป็นผู้ก่อการร้ายชุดดำจริง
อาจจะมีคนปลดอาวุธให้เขาไปหมดแล้วก่อนจะนำส่งโรงพยาบาล" นายสุเทพกล่าว
นาย
สุเทพกล่าวอีกว่า ในคดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอสอบสวนเสร็จจนส่งอัยการ
มีผู้ต้องหา 26 คน โดยจำนวนนั้นมีหลายคนเป็นผู้ก่อการร้ายและเป็นชายชุดดำ
หลายคนให้การรับสารภาพว่าได้รับการฝึกอาวุธจากต่างประเทศ
เป็นกลุ่มนักรบพระเจ้าตาก และยังเอาปืนทราโวยิงใส่โรงแรมดุสิตธานี
บางคนเอาปืนเอ็ม 79 ไปยิงที่นั่นที่นี่ มีอยู่ในรายงานของดีเอสไออยู่แล้ว
แต่การที่พนักงานสอบสวนชุดนี้ระบุว่าไม่มีข้อมูลชายชุดดำ
เข้าใจว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้เป็นคนละชุดกับที่เคยมีการสอบสวนไว้เดิม
@ สอบสวนนานกว่า10ชม.
ผู้
สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อมั่นในการทำงานของดีเอสไอหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า
เชื่อมั่นในระบบ และองค์กร ส่วนตัวบุคคลเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หัวหน้าพนักงานสอบสวนถามว่าตนเคยมีเรื่องโกรธแค้นใครใน ศอฉ.หรือไม่
จึงได้ตอบไปว่าในอดีตไม่เคยโกรธเคืองใคร แต่ในอนาคตไม่แน่
ผู้สื่อ
ข่าวรายงานว่า นายสุเทพเดินทางมาถึงดีเอสไอก่อนเวลานัด
รวมใช้เวลาอยู่ที่ดีเอสไอทั้งสิ้น 13 ชั่วโมง
ขณะที่ใช้เวลาในการสอบปากคำนานเกือบ 10
ชั่วโมงและภายหลังให้ปากคำแล้วเสร็จเดินออกมาพบนักข่าวยังรอสัมภาษณ์
และสอบถามถึงสาเหตุที่ใช้เวลาสอบปากค่อนข้างนาน นายสุเทพพูดว่า
"ชีวิตก็เป็นอย่างนี้เอง"
@ สอบพลซุ่มยิง29ส.ค.
พ.ต.อ.
ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า
พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายอภิสิทธิ์และนาย สุเทพ อย่างครบถ้วน
ไม่มีประเด็นใดต้องที่จะต้องซักถามเพิ่มเติม โดยการสอบปากคำเมื่อวันที่ 27
สิงหาคม พนักงานสอบสวนได้ตั้งประเด็นคำถามครอบคลุมถึง 40 คำถาม
ซึ่งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพตอบด้วยตนเองอย่างครบถ้วน
พ.ต.อ.
ประเวศน์กล่าวอีกว่า ระหว่างการสอบปากคำเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม
ได้นำคลิปภาพบุคคลแต่งชุดทหารยิงใส่ประชาชนช่วงเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน
2553 ที่เผยแพร่ในยูทูบมาให้นายสุเทพดู
ซึ่งนายสุเทพก็บอกว่าไม่เคยเห็นภาพดังกล่าว
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าบุคคลใดบ้างที่มีความจำเป็นต้องเรียก
มาสอบเพิ่มตามคำให้การของนายสุเทพ
ที่ระบุว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องในการร่วมลงมติของ ศอฉ. เช่น นายถวิล
เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. หรือแม้กระทั่งนายธาริต อธิบดีดีเอสไอ
แต่ขอย้ำว่าขึ้นอยู่กับความจำเป็นทางคดีที่เกี่ยวข้องจริง
พ.ต.อ.
ประเวศน์กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศ ไม่ได้ตึงเครียด ตอบข้อซักถามคล้ายๆ
กับการอภิปรายในสภา การสอบปากคำนายสุเทพใช้ระยะเวลายาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
ซึ่งเริ่มสอบปากคำตั้งแต่ 14.00 น. ของวันที่ 27 สิงหาคม กระทั่งเวลา 01.00
น. วันที่ 28 สิงหาคม เมื่อพิมพ์เอกสารคำให้การเสร็จสิ้น
นายสุเทพขอเวลาในการอ่านทบทวนคำให้การอีกครั้งและลงนามรับรองคำการให้จำนวน
600 หน้ากระดาษ โดยเป็นคำให้การ 20 หน้ากระดาษ แต่ต้องเซ็นชื่อรับรองอีก 30
ชุด เพื่อใช้ประกอบ 30 สำนวนคดี ซึ่งนายสุเทพต้องเซ็นซื่อทุกแผ่น
โดยรวมใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก่อนทางกลับออกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษประมาณ 04.00
น.ของวันที่ 28 สิงหาคม
พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 29
สิงหาคม เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน ได้เรียกให้พลซุ่มยิง 2 นาย
เข้าให้การเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในจุดที่ได้รับมอบหมายให้เข้าประจำจุด
@ ′แม่น้องเกด′เร่งคดี
ที่
ทำเนียบรัฐบาล นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด"
พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ช่วงการชุมนุมเดือนพฤษภาคม 2553
พร้อมด้วย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภาฯ 35
เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ผ่านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
นายอดุลย์กล่าวว่า ต้องการติดตามการทำงานของรัฐบาลในการตรวจสอบข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เพื่อให้เร่งดำเนินการ
@ ปชป.จวก′เหวง′ลืมอดีต
ที่
พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวกรณี นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.
ออกมาถามหาคลิปวิดีโอชายชุดดำ ว่า นพ.เหวง น่าจะรับทราบว่ามีชายชุดดำอยู่
เพราะ นพ.เหวง เป็นผู้ต้องหา ลำดับที่ 5
ในคดีก่อการร้ายที่มีชายชุดดำรวมอยู่ด้วย ดังนั้น
นพ.เหวงจะบอกไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวนนท์
ได้เปิดคลิปวิดีโอการปราศรัยบนเวทีของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.
ที่กล่าวปราศรัยว่า "มีกลุ่มกองกำลัง พร้อมที่จะเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพ"
และได้เปิดภาพถ่ายที่มีชายชุดดำยืนอยู่ด้านหลังนพ.เหวง และนายณัฐวุฒิ
ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมอยู่ด้วย
@ ′บิ๊กป๊อก′เลื่อนให้การ
วัน
เดียวกัน ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำ อช.2/2555
ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9
ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ชาวจังหวัดยโสธร
อาชีพขับรถแท็กซี่
ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
เพื่อทำคำสั่ง แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด สาเหตุ
และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150
ซึ่งนายพัน ถูกยิงเสียชีวิตหน้าคอนโดมิเนียม ใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์
สถานีราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553
ระหว่างเหตุการณ์ทหารกระชับพื้นที่บริเวณราชประสงค์
โดยเมื่อถึงเวลา
ปรากฏว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.คณิต
สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตแม่ทัพภาคที่ 1
และ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 อดีต ผบ. พล.1 รอ.
พยานที่ทนายความขอให้ศาลออกหมายเรียกมาไต่สวน ไม่ได้เดินทางมาศาล โดย
พล.อ.อนุพงษ์ ได้ยื่นหนังสือแจ้งศาลว่า
เพิ่งได้รับหมายเรียกและติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาได้ ส่วน พล.อ.คณิต
ยื่นหนังสือแจ้งว่า ติดภารกิจราชการต้องเดินทางไปประเทศเคนยาระหว่างวันที่
28 สิงหาคม-4 กันยายนนี้ ส่วน พล.ท.กัมปนาท ไม่ได้แจ้งเหตุผล
ศาล
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ไต่สวนพยานคดีนี้
ที่ผ่านมาเพียงพอที่จะทำคำสั่งแล้ว จึงนัดไต่สวนพยานที่นัดไว้แล้วในวันที่
30 สิงหาคม นี้เวลา 09.00 น.
@ ′เฉลิม′ห่วง′หมอตุลย์′
ที่
ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
ตนได้รับแจ้งจากตำรวจในท้องที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี
ขับรถไปจอดที่ชั้น 4 รพ.จุฬาฯ จากนั้นเวลา 15.00 น.
มีถุงพลาสติกแขวนอยู่ที่กระจกมองข้างด้านขวาของรถ นพ.ตุลย์ ซึ่ง
นพ.ตุลย์นั้นได้หยิบมาแล้วโยนลงพื้น
จากนั้นได้ขับลงมาแล้วบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลให้ไปตรวจ
สอบดู ปรากฏว่า เป็นระเบิดชนิดเอ็มเค 2 อยู่ในสภาพพร้อมติดระเบิด
แต่โชคดีที่ไม่ระเบิด เบื้องต้นตนมีความเป็นห่วงใย
และได้กำชับตำรวจในพื้นที่แล้ว
แต่ไม่กล้าพูดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์อย่างใด
@ ไม่มีวงจรปิดในลานจอด
เมื่อ
เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.สรกานต์ ดำกระบี่ สว.สส.สน.ปทุมวัน เปิดเผยถึงความ
คืบหน้าว่า
ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณลานจอดรถและ
โดยรอบที่เกิดเหตุแล้ว แต่ภายในที่จอดรถชั้น 4
ที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรทำให้ไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้
โดยที่ลานจอดรถมีกล้องวงจรปิดเพียงแค่ทางเข้าออกเท่านั้น
ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บรอยนิ้วมือแฝง
ของคนร้ายบนรถยนต์และระเบิดแล้ว
กำลังอยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย คาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 3
วันถึงจะ รู้ผล
@ ชี้แค่ข่มขู่ไม่หวังบึ้ม
พ.ต.อ.กำธร
อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) บก.สปพ.
เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบลูกระเบิดชนิดเอ็มเค 2 พบว่า
สายไฟและถ่ายไฟฉายที่คนร้ายต่อกับระเบิดนั้น เป็นการต่อวงจรแบบหลอกๆ
เพราะระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดสังหารชนิดแบบขว้าง ไม่จำเป็นต้องประกอบวงจร
แต่ว่าระเบิดลูกนี้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
แต่คนร้ายบรรจุระเบิดอยู่ในกล่องอย่างดีเพื่อป้องกันไม่ให้สลักระเบิดหลุด
ออกมา จึงคาดว่าคนร้ายคงไม่ต้องการให้เกิดระเบิดและมีความเสียหายเกิดขึ้น
คงเพียงแค่มีเจตนาข่มขู่เท่านั้น
จากการตรวจสอบซีรีส์นัมเบอร์บนตัวระเบิดพบว่าถูกขูดออกไป
ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346207603&grpid=&catid=01&subcatid=0100
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น