ป้ายโจมตี สุเทพ เกลื่อน สุราษฏร์ธานี 3มค.57

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ
ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ 
เนื่องจากถูกสกัดกั้นจากจากกลุ่ม กปปส.สุราษฎร์ธานี 
จนทำให้ กกต.ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่รับสมัครส.ส.ได้ทั้ง 6 เขต
ขณะนี้ได้มีการจัดทำป้ายไวนิลระบุข้อความโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
 ถูกนำมาติดตั้งไว้หลายจุดในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 
โดยข้อความในป้ายไวนิลดังกล่าวนั้น ระบุว่า "เทพตั้งหรือเลือกตั้ง" 
ด้วยตัวหนังสือสีขาวบนพื้นสีเขียว บางป้ายระบุข้อความว่า
 "สภาผู้แทนหรือสภาพ่อไอ้แทน(เขาแพง)"

คลิปตำรวจแสดงพลังลานพระรูป อาลัยด.ต.ณรงค์ - ลั่นก้มหัวให้คนดี แต่กับไอ้โจรกบฎตายเป็นตาย!

คลิปจากยูทูบ : Phattraporn Tanngam

 เวลา 12.00 น. วันที่ 30 ธ.ค.  2556 ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า แขวงและเขตดุสิต กทม. ข้าราชการตำรวจในนามกลุ่มปกป้องวิชาชีพตำรวจ จำนวน 5 กองร้อย นัดรวมตัวแต่งเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ เพื่อร่วมกันแสดงพลังเรียกร้องศักดิ์ศรีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หลังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้รับความคุ้มครองทั้งด้านกฎหมายและจากผู้บังคับบัญชา 

 ต่อมาข้าราชการตำรวจร่วมกันติดริบบิ้นสีดำที่แขนซ้ายพร้อมยืนไว้อาลัยให้กับด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผบ.หมู่.จร.สน.ตลาดพลู เหยื่อปะทะม็อบที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ประมาณ 5 นาที จากนั้นมีข้าราชการตำรวจร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัย

 ด.ต.ชาติชาย ไชยภพ ผบ.หมู่.จร.สน.ตลาดพลู กล่าวว่า จากเหตุปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าประตู 3 อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา พวกตนนั้นเป็นแค่นายตำรวจชั้นผู้น้อยถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ไม่ได้มีความคิดที่จะทำร้ายประชาชน ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทราบภายหลังว่าด.ต.ณรงค์  ผบ.หมู่จร.สน.ตลาดพลู ซึ่งเป็นเพื่อนตำรวจของตนถูกยิงเสียชีวิต จึงขอวิงวอนไปยังท่านผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ตระหนักถึงความปลอดภัยของตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย นอกจากนี้ ยังรวมกลุ่มผ่านเครือข่ายสังคมอออนไลน์อย่างเฟชบุ๊ก โดยเปิดเพจสมัชชาศักดิ์ศรีตำรวจไทย เรียกร้องให้เพื่อนข้าราชการตำรวจที่รักในศักดิ์ศรีเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าว

 ผู้สื่อข่าว"ข่าวสด"รายงานว่า พ.ต.อ.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร ผกก.อก.บก.จร อ่านแถลงการณ์ 6 ข้อเรียกร้องต่อผู้บังคับบัญชาและกลุ่มผู้ชุมนุม ประกอบด้วย 1. พึงธำรงรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการพิทักษ์รับใช้ประชาชน แต่ตำรวจก็ควรมีสิทธิในการปกป้องชีวิตและร่างกายของตัวเองด้วย 3. ผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่รักษาความสงบเรียบร้อย จะต้องได้รับโทษโดยเร็ว 4. ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อตำรวจ ซึ่งปฏิบัติตามกฎหมายและเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจ 5. พึงต่อต้านการบ่อนทำลายความสงบสุขของสังคมและสร้างความแตกแยกของสังคม โดยเฉพาะกลุ่มที่มุ่งทำลายศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ให้เกลียดชังตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม และ 6. ต้องตรวจสอบ ติดตาม ต่อต้าน การทำลายชาติด้วยการบิดเบือน ใส่ร้ายองค์กร เจ้าหน้าที่ตำรวจ บ่อนทำลายระบบนิติรัฐ เพื่อประโยชน์ของตนหรือพวกพ้อง

 ทั้งนี้ ภายหลังอ่านแถลงการณ์ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น. 7 เป็นตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับข้อเรียกร้องทั้งหมด เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป

 พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. เปิดเผยว่า การรักษาความสงบของประเทศในสถานการณ์การชุมนุมขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในนามของศูนย์อำนวยการรักษาความ สงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นการควบคุมสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด และเงื่อนไขต่างๆ มากมาย เพื่อประคองสถานการณ์ไม่ให้ความขัดแย้งทางการเมืองลุกลามกลายเป็นความรุนแรง ทางสังคม  การดำเนินการใดๆ จึงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาแก่บ้านเมือง อย่างไรก็ตาม แม้ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายและปฏิบัติตามหลักสากล ก็ยังคงมีเหตุการณ์แทรกซ้อนเกิดขึ้น ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนผู้ชุมนุมก็ได้รับความสูญเสียทั้งการบาด เจ็บและเสียชีวิต   

 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ในการประชุมติดตามสถานการณ์ ของ ศอ.รส.ประจำวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖  ได้มีการประเมินจากการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า อาจมีเหตุการณ์แทรกซ้อนจากการชุมนุมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจากผู้ไม่ประสงค์ดี ที่หวังสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่ง ผอ.ศอ.รส.ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุม ว่า แม้ว่าปัจจุบันตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะเครียด แต่ขอให้ตำรวจทุกคนตระหนักถึงความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์  มีหน้าที่รักษากฎหมายของบ้านเมือง ถ้าตำรวจไม่ทำหน้าที่ บ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวาย   แม้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งนี้จะมีความยากและ อ่อนไหว   ตำรวจก็ยิ่งต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและคำนึงถึงประโยชน์สุขของประเทศเป็น สำคัญ หากตำรวจเป็นผู้กระทำการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงเสียเอง ผลที่ตามมาก็คือความเสียหายของประเทศชาติ จึงขอให้ตำรวจทุกนายใช้สติพิจารณาให้รอบคอบ  ถึงการปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้ความอดทน  อดกลั้น พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้  โดยยึดหลักกฎหมายตามขั้นตอนการปฏิบัติที่เป็นหลักสากล

 นอก จากนี้ ได้สั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยที่ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ปฏิบัติภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อยได้ไปทำความเข้าใจ ให้กำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวข้างต้น  ส่วนผู้บังคับบัญชาของ ตร. และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มีการประชุมหารือในการปรับยุทธวิธี โดยเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติให้ มากขึ้น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเชื่อมั่นในความเป็นผู้รักษากฎหมาย แม้ว่าจะถูกท้าทาย ถูกกระทำ และถูกกดดัน อย่างมากมายเพียงใด การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องตามหน้าที่ความรับผิดชอบจะทำให้สถานการณ์ ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี และขอเป็นกำลังใจให้กับตำรวจทุกนายที่จะมุ่งเน้นในการทำหน้าที่ของผู้ พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างดีที่สุด เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

ผมอยากสื่อถึง ท่าน สว. ท่านกรรมการสิทธิ์ฯ
ที่ว่าพวกเราทำเกินกว่าเหตุ
ผมขอเสนอ ท่านมีกี่คนครับ
จัดมาเข้าเวรวันละคนกับพวกผม
แล้วมาสั่งการว่ามีเหตุการณ์จะให้พวกผมทำยังไง
แต่ข้อสำคัญ ขออย่างเดียว
ท่านอย่าหนีก่อนนะ
ท่านอมรา ผมอยากถามท่าน
"ใช้เอ็ม16ยิงกับใช้แก๊สน้ำตา"
อันไหนมันแรงกว่ากันครับ

"ตำรวจไม่ได้สอนมาให้กลัว แต่สอนมาให้เป็นขี้ข้าคนดี"
"พวกผมก้มหัวให้คนดี แต่ไอ้พวกโจรกบฏ ตายเป็นตาย "

+++!!! ความในใจตำรวจถึง ผู้บังคับบัญชา !!!+++
"เวลาไปภาระกิจ
ผมขอมีอาวุธไว้ป้องกันตัวแค่นั้นเองครับ
พวกผมขอนายแค่นี้ พวกผมมีปืนไม่ได้ไว้ยิงใคร
แต่เอาไว้ป้องกันว่าเมื่อมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว
ขอกลับไปหาลูกเมียโดยปลอดภัยแค่นั้นเองครับ"